“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระวาจาของพระเจ้าละม้ายคล้ายกับคำพูดของมนุษย์

7.       บัดนี้ เราจำเป็นจะต้องพิจารณาวิธีการต่างๆที่บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชาใช้กล่าวถึง "พระวาจาของพระเจ้า" จากการคิดคำนึงที่เกิดจากการรำพึงไตร่ตรองธรรมล้ำลึกของคริสตศาสนาตามที่ปรากฏอยู่ในอารัมภบทของพระวรสารนักบุญยอห์น ถูกต้องแล้วที่ท่านเหล่านั้นกล่าวว่าพระวาจาของพระเจ้าเป็นเหมือน "การบรรเลงดนตรีวงใหญ่" หรือ "symphony" พระวาจาเพียงคำเดียวแสดงความหมายได้หลากหลาย เป็นเหมือน "บทเพลงประสานเสียง"[1]พระวจนาตถ์ ก่อนอื่นหมดหมายถึงพระวาจานิรันดร นั่นคือพระบุตรพระองค์เดียวที่ทรงบังเกิดจากพระบิดาตั้งแต่นิรันดร และทรงพระธรรมชาติเดียวกันกับพระบิดา พระวจนาตถ์ประทับอยู่กับพระเจ้าและพระวจนาตถ์ทรงเป็นพระเจ้า ยอห์นยังกล่าวอีกว่าพระวจนาตถ์องค์นี้ "ทรงรับธรรมชาติมนุษย์" (ยน 1:14) เพราะฉะนั้นพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี จึงทรงเป็นพระวาจาของพระเจ้าโดยแท้จริงที่ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ร่วมกับพวกเรา ดังนั้น วลี "พระวาจาของพระเจ้า" ที่ตรงนี้จึงหมายถึงพระบุคคลของพระคริสตเจ้าที่ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ พระองค์คือพระบุตรแต่นิรันดรของพระบิดา บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เราใช้ภาษามนุษย์กล่าวถึงพระวาจาของพระเจ้าในแบบอุปมาน ข้อความนี้เมื่อใช้หมายถึงการที่พระเจ้าทรงสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์เองแก่มนุษย์ จึงมีความหมายหลากหลายที่เราจะต้องพิจารณาให้เห็นชัดเจน ไม่ว่าในมุมมองการค้นคว้าทางเทววิทยา หรือในความหมายเกี่ยวกับงานอภิบาล อารัมภบทของพระวรสารนักบุญยอห์นเองก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า

นอกจากนั้น ถ้าเหตุการณ์ของพระคริสตเจ้าเป็นหัวใจของการที่พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริง เราก็จำเป็นต้องยอมรับด้วยว่าการเนรมิตสร้างซึ่งเป็นเสมือน หนังสือของธรรมชาติ (naturae librum) ก็เป็นส่วนสำคัญในการสื่อเสียงประสานมากมาย ที่ร่วมแสดงพระวาจาหนึ่งเดียวนี้ออกมาด้วย พวกเรายังประกาศด้วยว่าพระเจ้าทรงสื่อพระวาจาในประวัติศาสตร์ความรอดพ้น ทรงทำให้มนุษย์ได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ ซึ่งทรงใช้พระอานุภาพของพระจิตเจ้า "ตรัสทางบรรดาประกาศก"[2] ดังนั้นพระวาจาของพระเจ้าจึงแสดงออกตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์ความรอดพ้น และแสดงออกอย่างสมบูรณ์ในพระธรรมล้ำลึกที่พระบุตรของพระเจ้าทรงรับธรรมชาติมนุษย์ สิ้นพระชนม์ และทรงกลับคืนพระชนมชีพ นอกจากนั้น พระวาจาของพระเจ้าก็คือพระวาจาที่บรรดาอัครสาวกประกาศสอน ตามพระบัญชาของพระเยซูเจ้า ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ: "ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลกประกาศข่าวดีแก่มนุษย์ทั้งปวง" (มก 16:15) ดังนี้พระวาจาของพระเจ้าจึงถ่ายทอดสืบต่อมาในธรรมประเพณีของพระศาสนจักรจนถึงปัจจุบัน ในที่สุด พระวาจาของพระเจ้าที่มีพยานยืนยันและได้รับการดลใจจากพระเจ้าก็คือพระคัมภีร์ ทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่     ทุกสิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าทำไมในพระศาสนจักรพระคัมภีร์จึงได้รับความเคารพอย่างมาก กระนั้นก็ดี ความเชื่อในพระคริสตเจ้าก็ไม่เป็นเพียง "ศาสนาตามหนังสือ" แต่คริสตศาสนาคือ "ศาสนาตามพระวาจาของพระเจ้า" ไม่ใช่ศาสนาตามถ้อยคำที่เขียนไว้และพูดไม่ได้ แต่เป็นศาสนาของ "พระวจนาตถ์" (พระวาจา) ที่ทรงรับธรรมชาติมนุษย์และทรงชีวิต[3] เพราะฉะนั้น เราจึงต้องประกาศ ฟัง อ่าน และรับพระคัมภีร์ประหนึ่งว่าเป็นพระวาจาของพระเจ้า ตามธรรมประเพณีที่สืบต่อมาจากบรรดาอัครสาวก และพระคัมภีร์จะแยกจากธรรมประเพณีนี้ไม่ได้[4]

ดังที่บรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชากล่าวไว้ วลี "พระวาจาของพระเจ้า" มีความหมายเข้าใจได้หลายแบบ เราจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ บรรดาผู้มีความเชื่อจึงต้องได้รับความช่วยเหลือให้เข้าใจว่าวลีนี้มีความหมายหลายแบบ และเข้าใจเอกภาพของความหมายเหล่านี้ด้วย ในมุมมองด้านเทววิทยายังจำเป็นต้องค้นคว้าให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นถึงเหตุผลของความหมายต่างๆเหล่านี้ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นว่าแผนการของพระเจ้ามีเอกภาพ และพระบุคคลของพระคริสตเจ้ามีความสำคัญเป็นพิเศษ[5]

[1] Instrumentum laboris, 9.

[2] Symbolum Nicaenum-Constantinopolitanum: DS 150.

[3] Cfr. S. Bernardus Claravallensis, Homilia super Missus est, IV,11: PL 183, 86 B.

[4] Cfr Conc. Oecum. Vat. II. Const. dogm. De divina Revelatione Dei Verbum, 10.

[5] Cfr Propositio 3.

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก