“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“พระองค์มิใช่พระเจ้าของผู้ตาย แต่เป็นพระเจ้าของผู้เป็น”

63. การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย (2)
a)ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
             1.ชาวสะดูสีอ้างว่าไม่มีการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย เรื่องราวที่เขาเล่าให้พระเยซูเจ้าทรงฟังมีเบื้องหลังในความคิดนี้ หญิงคนหนึ่งแต่งงานกับพี่น้องทั้งเจ็ดคนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดในธรรมบัญญัติของโมเสส ในสมมุติฐานเรื่องการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย หญิงคนนั้นจะเป็นภรรยาของใครในบรรดาชายทั้งเจ็ดคน ปัญหานี้ดูเหมือนแก้ไม่ตก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่นางจะเป็นภรรยาของสามีทั้งเจ็ดคนในเวลาเดียวกัน และไม่มีชายคนใดที่มีสิทธิมากกว่ากันในการเป็นสามี

เรื่องนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงว่า การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายนำไปสู่สถานการณ์ที่มีความขัดแย้งในตัว จึงไม่มีเหตุผลที่ชาวสะดูสีจะยอมรับได้ น่าสังเกตว่า พระเยซูเจ้าไม่ทรงตอบคำถามดังกล่าวนี้ แต่ตรัสเพียงว่า “ท่านคิดผิดไปแล้ว” พระองค์ไม่ทรงยอมรับข้อสันนิษฐานของชาวสะดูสีที่มองพระเจ้าในมุมแคบ สำหรับเขา พระเจ้าเป็นเพียงพระผู้ทรงกำหนดกฎเกณฑ์ทางกฎหมาย และเป็นพระเจ้าผู้ทรงแสดงพระอานุภาพทั้งหมดในการสร้างโลกที่มีอยู่จริงในปัจจุบันเท่านั้น เหตุการณ์นี้สอนเราว่า เมื่อต้องพิจารณาปัญหาใด ๆ เกี่ยวกับความเชื่อ อันดับแรก เราต้องทดสอบทัศนคติของเราเกี่ยวกับพระเจ้าก่อน

              2.ชาวสะดูสีมองพระเจ้าว่า ทรงเป็นผู้ประทานกฎเกณฑ์แต่ละข้อที่รับรองว่า ประชากรอิสราเอลจะมี ชีวิตที่ดีและเป็นระเบียบเรียบร้อยในโลกนี้ แต่สำหรับพระเยซูเจ้า ก่อนอื่นหมด พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งความเมตตากรุณาต่อมนุษย์แต่ละคน ทรงเป็นผู้นำ ผู้เอาใจใส่ดูแล และผู้ให้คำสัญญา พระเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์มิใช่โดยออกกฎหมายในลักษณะทั่วไปซึ่งไม่คำนึงถึงผู้ใดโดยเฉพาะ แต่ทรงเปิดเผยพระองค์เป็นการส่วนตัวกับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ ความพระทัยดีของพระองค์ไม่เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วคราว แต่ถาวรตลอดไป ไม่อยู่ใต้อำนาจของความตายเพราะเป็นความพระทัยดีของพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพและทรงชีวิต พระเจ้าไม่ทรงเอาพระทัยใส่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เพียงในช่วงเวลาที่เขามีชีวิตอยูในโลกนี้ แล้วเมื่อเขาตายก็ทรงละทิ้ง ดังนั้น ถ้าพระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ผู้ใดด้วยพระเมตตา ผู้นั้นจะมีชีวิตตลอดไป เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของผู้มีชีวิต

             3.ถ้าเราพิจารณาประวัติศาสตร์มนุษย์ จะเห็นว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกวันอย่างไม่มีสิ้นสุด แต่ก็ไม่หมายความว่า พระเจ้าทรงถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้ตายมากขึ้นเรื่อย ๆ ตรงกันข้าม พระองค์จะทรงถูกห้อมล้อมมากยิ่งขึ้นด้วยผู้ที่ได้จบชีวิตบนแผ่นดินนี้และได้รับชีวิตที่สมบูรณ์จากพระองค์ เพราะพระองค์ไม่เป็นพระเจ้าของผู้ตาย แต่เป็นพระเจ้าของผู้เป็น

            4.ชาวสะดูสีคิดผิดทั้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์และเกี่ยวกับพระอานุภาพของพระเจ้า เขาคิดว่ามนุษย์มีชีวิตได้เพียงในสภาพโลกที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่พระเยซูเจ้าทรงชี้แจงว่า ทัศนคติของชาวสะดูสีให้คุณค่าพระอานุภาพของพระเจ้าต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะพระอานุภาพสร้างสรรค์ของพระองค์ไม่มีสิ้นสุด พระเยซูเจ้าไม่ทรงบรรยายชีวิตในอนาคตหลังจากความตาย เพียงตรัสว่าเวลานั้นจะไม่มีการแต่งงานกัน และจะมีชีวิตเหมือนทูตสวรรค์ โดยไม่ทรงอธิบายรายละเอียดมากกว่านั้น พระองค์ไม่ทรงบรรยายชีวิตในโลกหน้า เพื่อตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ แต่ทรงมุ่งมั่นที่จะชี้แจงพื้นฐานของชีวิตในโลกหน้า ในส่วนของพระเจ้า ชีวิตหน้ามีพื้นฐานบนความพระทัยดีและความรักของพระองค์ต่อมนุษย์แต่ละคน รวมทั้งพระอานุภาพของพระองค์ ในส่วนของมนุษย์ มีพื้นฐานบนความคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับพระเจ้า ความเชื่อในความรัก และพระอานุภาพของพระองค์ พูดอีกนัยหนึ่ง พระองค์ทรงเชิญชวนเราไม่ให้สนใจเพียงลักษณะใดลักษณะหนึ่งของชีวิตหน้าเท่านั้น แต่ให้จับตามองพระเจ้าผู้ประทานชีวิตนี้ คือพระเจ้าผู้ทรง สรรพานุภาพ ผู้ทรงมอบพระองค์เองเป็นการส่วนตัวกับมนุษย์ ดังนั้น ผู้ที่พระองค์ทรงรักก็จะเข้าในอาณาจักรของผู้มีชีวิตตลอดไป

          5.ความเชื่อในการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย จึงขึ้นอยู่กับความเชื่อในพระเจ้าและในพระอานุภาพของพระองค์ และเป็นมาตรฐานของความเชื่อในพระเจ้า ทุกวันนี้ยังมีบุคคลมากมายที่ปฏิเสธไม่ยอมรับความเชื่อในการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายและหัวเราะเยาะผู้มีความเชื่อนี้ เหตุผลที่เขานำมาอ้างอาจเปลี่ยนแปลงจากข้อสันนิษฐานของชาวสะดูสี เช่น มนุษย์ที่ตายไปแล้วจะเป็นจำนวนมากนับไม่ถ้วน เมื่อเขากลับคืนชีพจะมีที่สำหรับทุกคนได้อย่างไร เขาจะทำอะไรกันบ้าง ผู้ไม่มีความเชื่อตัดสินทุกอย่างตามจินตนาการของมนุษย์ ซึ่งผูกพันกับประสบการณ์ของโลกนี้ เขาทั้งหลายไม่คำนึงถึงสิ่งที่พระอานุภาพและความรักของพระเจ้าสามารถทำได้ ข้อความเชื่อในการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายจึงเป็นข้อความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า ความรักและพระอานุภาพของพระองค์ มากกว่าข้อความเชื่ออื่น ๆ สรุปแล้ว พระองค์เป็นพระเจ้าของชีวิตอมตะของผู้มีความเชื่อทุกคน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก