รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคม 2017
สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
ลก 11:5-13…
      5พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “สมมติว่าท่านคนหนึ่งมีเพื่อนและไปพบเพื่อนนั้นตอนเที่ยงคืนกล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ย ให้ฉันขอยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด 6เพราะเพื่อนของฉันเพิ่งเดินทางมาถึงบ้านของฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้เขากิน” 7สมมติว่าเพื่อนคนนั้นตอบจากในบ้านว่า “อย่ารบกวนฉันเลย ประตูปิดแล้ว ลูกๆ กับฉันก็เข้านอนแล้ว ฉันลุกขึ้นให้สิ่งใดท่านไม่ได้หรอก” 8เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าคนนั้นไม่ลุกขึ้นให้ขนมปังเพราะเป็นเพื่อนกัน เขาก็จะลุกขึ้นมาให้สิ่งที่เพื่อนต้องการเพราะถูกรบเร้า


      9เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน 10เพราะคนที่ขอย่อมได้รับ คนที่แสวงหาย่อมพบ คนที่เคาะประตูย่อมมีผู้เปิดประตูให้ 11ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ 12ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ 13แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดีๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระวรสารก่อนหน้านี้คือเรื่องการที่พระเยซูเจ้าสอนศิษย์ให้สวดบทข้าแต่พระบิดา พระองค์สอนศิษย์ให้เรียกพระเจ้าว่า “พระบิดา” และสอนให้วิงวอนขอ... และวันนี้พระวรสารพระองค์ก็สอนต่อให้วิงวอนขอ ขอจากพระบิดา
o “จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้วเขาจะเปิดประตูรับท่าน”
o ถ้อยคำนี้พ่อได้ยินมาตั้งแต่เป็นเด็ก จงขอเถิด...

• พระวรสารวันนี้ ดูเหมือนง่ายที่จะเทศน์ที่จะอธิบาย แต่เมื่อไตร่ตรองพ่อก็รู้สึกว่าไม่ง่ายเหมือนกัน เพราะเรื่องการภาวนา การขอ ก็เป็นเรื่องปกติของเราคริสตชน แต่พ่อพยายามแกะบางประเด็นของพระวาจาตอนนี้ที่เราคุ้นเคย.. พ่อกำลังแกะดูว่า มีจุดไหน ประเด็นไหนที่พ่อน่าจะนำมาพิจารณา ศึกษา และไตร่ตรองเป็นพิเศษไหม...

• ที่สุดพ่อมาสะดุดตรงที่ว่า พระวาจาตอนนี้อยู่ต่อจากการสอนให้ภาวนาข้าแต่พระบิดาในพระวรสารนักบุญลูกา และพ่อก็มาสะดุดตรงที่ว่า... “ท่านที่เป็นพ่อ”
o “ท่านที่เป็นพ่อ ถ้าลูกขอปลา จะให้งูแทนปลาหรือ ถ้าลูกขอไข่ จะให้แมงป่องหรือ
o แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดีๆ แก่ลูก แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”

• พ่อกำลังคิดถึงคำที่พระเยซูเจ้าเปรียบเทียบ “ท่านที่เป็นพ่อ” แล้ว “พระบิดาเจ้าสวรรค์”
o ตรงนี้ทำให้พ่อได้คิดถึงความเป็น “พ่อ” “บิดา” สำหรับเราทุกคน และเมื่อเปรียบกับพระบิดาเจ้าสวรรค์ เราสามารถทำการเปรียบเทียบได้ และ
o ทำให้เราคิดถึง “พระเจ้าพระบิดา” ได้อย่างมากว่าพระองค์จะรัก จะเมตตา และจะฟังคำขอร้องของเราเพียงใด ในเมื่อเราที่เป็นมนุษย์ บิดา หรือพ่อ ของเราทั่วไปโดยปกติย่อมรับลูกๆของตน

• คนที่เป็นพ่อก็รักลูกๆเสมอ พ่อจะรักลูกสาวมากหน่อย เพราะห่วงใย ตัวพ่อเองก็มีประสบการณ์กับเรื่องนี้มากในครอบครัวของพ่อเอง เพราะจาพ่อลูกสาวสิบเอ็ดคน จาพ่อก็รักลูกๆทุกคนจริงๆ รักลูกสาวทุกคนมากหน่อย... และพ่อเชื่อว่าบิดาทั่วไปโดยปกติก็รักและห่วงลูกมาก โดยเฉพาะลูกสาวที่ต้องห่วงใยเรื่องความปลอดภัย... พ่อไม่รู้จริงๆว่า คนที่เป็นพ่อจะรักห่วงลูกขนาดไหน พ่อก็ว่าไปตามความรู้สึกของพ่อที่เคยมีประสบการณ์กับจา
o พ่อจำได้ว่า วันที่จาใกล้จะจากไป หรือรู้ว่าตนเองป่วยหนักแล้ว พ่อพยายามเข้าไปนั่งในหัวใจจาพ่อ จาพ่อคิดอะไรหนอ ห่วงลูกแน่ๆ คงคิดตลอดว่าลูกๆฉันจะอยู่กันอย่างไรต่อไป จะรักกันแค่ไหน ฉันจะไม่ได้เห็นพวกเขาอีกแล้ว ฉันกำลังจะจากไป จะตายเหมือนกับคนอื่นๆที่จากไป... พ่อคิดว่าคนที่เป็นพ่อคงรู้สึกห่วง รัก อยากให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกๆเท่าที่จะทำได้
o พ่อจำได้ว่า จาเรียกพ่อไปหาที่บ้าน แม้แต่สิ่งที่พ่อเคยให้จาในอดีตโอกาสวันเกิด โอกาสต่างๆ พ่อเคยให้กางเขนทองจาอันหนึ่ง พ่อจำภาพได้ จาเก็บไว้ใต้หมอนในวันท้ายๆที่บ้าน พ่อเข้าไปหาในห้องที่ร่างกายจาอ่อนล้าเต็มที กำลังจะจากพวกเราไป... จาพยายามเคลื่อนมือไปที่ใต้หมอนอย่างช้าๆ ตามองพ่อแบบตาลอยๆต้องใช้แรงเปิดตาไว้ พ่อก็ถามจาว่าจามีอะไร พ่อก็หยิบให้จาเอง แล้วก็เจอกล่องกางเขนทองอันนั้นที่เคยให้จา... จายิ้ม และบอกว่า “คืนให้พ่อ” โห สุดยอดจริงๆ “จา พ่อ บิดา” แม้กระทั่งสิ่งที่เคยได้มาจากพ่อท่านก็คืนให้พ่อ...(น้ำตาคลอ ตอนนี้ตอนเขียนบทเทศน์นี้)
o พ่อเคยเห็นสัตบุรุษที่เป็นพ่อลูก ก็เป็นแบบนี้แหละครับ ความรักของบิดา หมายถึงการปกป้อง เลี้ยงดู เอาใจใส่ ห่วงใย ตลอด และเตรียมให้ทุกอย่างจริงๆ

• ยิ่งพี่ดู ไตร่ตรอง ความรักขอพ่อหรือบิดาของลูกๆ ในโลกนี้ ครอบครัวที่น่ารัก บิดาที่ดี (พ่อหมายถึงธรรมชาติของบิดานะครับ) รักลูกครับ ให้สิ่งที่ดีแก่ลูกเสมอ และพระเยซูเจ้าก็เสนอเรื่องนี้สอนเรา... เปรียบเทียบขึ้นไปหาพระบิดาเจ้าสวรรค์ได้เลย ถ้าเรามนุษย์ที่เป็นบิดายังให้สิ่งที่ดีแก่ลูก แล้วพระบิดาเจ้าสวรรค์จะไม่ยิ่งกว่านั้นสักเพียงใด

• อ่านเผินๆ ก็จะผ่านไป แต่เมื่อสะกดลงไปที่พระวาจา นี้ พ่อเห็นความรักของบิดาในโลกนี้ บรรรดาบิดาของเราในโลกนี้ เห็นมั่นคงเช่นนี้แล้วพ่อยิ่งมั่นใจ “พระบิดาเจ้าสวรรค์” จะรัก เมตตา และเป็นต้นแบบให้แก่เราว่าทรงรักเราเพียงใด

• วันนี้ประเด็นพ่ออยากย้อนกลับมามองและไตร่ตรองสอนตน พ่อเองที่เขาเรียกกันว่า “คุณพ่อ” และสอนบรรดา “บิดา” พ่อของลูกๆทั้งหลายครับ พวกเราต้องเป็น “พ่อ” ที่มีคุณภาพในความรักมากๆครับ
o เราคริสตชน ที่เป็นบิดาของลูกๆในครอบครัว เป็นสามีของภรรยา... เน้นที่ครอบครัวก่อนนะครับ พ่อขอภาวนาและขอให้เราทำหน้าที่บิดาที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัว ปัจจุบัน ครอบครัว สถาบันครอบครัวถูกบั่นทอนมาก สั่นคลอนมากครับ บาดแผลมากกายเกิดขึ้นครอบครัว กระทบคนในครอบครัว และบาดแผลที่บาดเจ็บมาก คือ บาดแผลที่เกิดจากการกระทำกันในครอบครัวเอง... ยิ่งเจ็บช้ำถ้าผู้สร้างบาดแผลลึกแก่บุตรหลานคือบิดา...
o พ่อขอให้เราคาคริสตชนคาทอลิกยืนหยัดในความสัตย์จริงๆแห่งความหมายของบิดานะครับ อย่าเห็นแก่ตัว อย่านอกใจภรรยา อย่าทิ้งครอบครัว อย่าเห็นแก่ตัว พระเยซูเจ้าตรัสแรงนะครับ “แม้แต่ท่านทั้งหลายที่เป็นคนชั่วยังรู้จักให้ของดีๆ แก่ลูก” พระวาจาตอนนี้ เป็นหมัดเด็ดปริดวิญญาณเลยครับ...
o ถ้าเราไม่ดูแลลูกๆ ไม่ให้สิ่งที่ดีแก่ลูก เราจะเป็นอะไรหนอ คือตีความคือคงแย่กว่าคนชั่ว... โอย ไม่เอาครับ เราคริสตชน บิดาทั้งหลายที่เป็นคริสตชน ช่วยกันรักษา ดูแล เยียวยาบาดแผลสังคม ด้วยการรักและดูแลให้สิ่งที่ดีแก่ลูกๆนะครับ เพราะเป็นลูกพระเจ้พระบิดาครับ... ขอให้เรารักและศรัทธาในพระเจ้า และศรัทธาในความรักในครอบครัวนะครับ

• เอาละครับ ต่อไปคือบรรดาพ่อๆ ทั้งหลาย คุณพ่อ พระสงฆ์ บาทหลวงครับ พ่อเองด้วยต้องเริ่มต้นเลย
o ใครๆก็ยินดีเรียกว่า ว่า “คุณพ่อ” คริสตชนไทยน่ารักครับ เรียกเรา “พ่อ” อย่างไม่เขิน ไม่กระดากใดๆ เพราะรักพระสงฆ์ .. พ่อขอบคุณพระเจ้าครับ พ่อคิดว่าถึงเวลาต้องปฏิรูปชีวิตสงฆ์ของเราให้เป็น “บิดา” ความรัก เมตตา ดูแลวิญญาณ เอาใจใส่อภิบาลด้วยความรัก การเทศน์สอน การเป็นแบบอย่าง การห่วงใยชีวิตฝ่ายวิญญาณให้ขึ้นไปอีกครับ ยังพัฒนาได้ทุกวัน
o และอย่าลืมฝ่ายกายด้วย โดยเฉพาะบรรดาลูกๆที่ยากไร้ มีเยอะมากครับ พ่อมั่นใจว่า พระสงฆ์ต้องเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับครับ เราต้องให้เสมอ แบ่งปันเสมอ เราไม่ได้ลำบากอะไร เราพระสงฆ์สามารถเป็นผู้ช่วยเหลือ แบ่งปัน และให้ได้เช่นกัน เราต้องฝึกเป็น “พ่อจริง” ไม่ใช่เพียงคำนำหน้า แต่เป็นพ่อที่รู้จักให้สิ่งที่ดีเสมอแก่สัตบุรุษ เพราะเราสอนถึงพระเจ้า เราเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า...
o พ่อคิดว่า พระสงฆ์ต้องเมตตา ใจกว้าง และเป็นผู้ให้จริงๆ ให้หมดทั้งชีวิตเพื่อพระศาสนจักร พระสงฆ์แต่งงานกับพระศาสนจักร พระศาสนจักรคือคริสตชนทุกคน ดังนั้น เราก็ต้องสัญญาครับ... ทั้งให้ยามสุข ยามทุกข์ เวลาป่วย เวลาสบาย เพื่อรัก และยกย่องให้เกียรติลูกๆทุกคนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ครับ..

• พี่น้องครับ ที่สุด พ่อก็พบความน่ารักของพระวาจาวันนี้ ทำให้พ่อสามารถสอนเทศน์แก่บรรดาคุณพ่อทั้งหลาย คือบิดาในครอบครัว และบรรดาพระสงฆ์เองด้วยครับ.. ขอให้พระวาจาของพระเจ้าเสริมกำลังให้เราเป็นเหมือนพระบิดาเจ้าสวรรค์นะครับ...

• และถ้ายากเกินไป อย่าลืมตอนสุดท้ายของพระวรสารครับ... “แล้วพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะไม่ประทานพระจิตเจ้าแก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์มากกว่านั้นหรือ”
o ถ้าลำบากไป ยากไป เหนื่อยไป ภาวนาของพระบิดาให้ประทานพระจิตเจ้าแก่เราครับ ให้เราเข้มแข็งในการทำหน้าที่บิดา ทำหน้าที่พระสงฆ์ ทำหน้าที่คริสตชนของเราอย่างดีครับ มารดาทั้งหลายด้วยนะครับ นักบวชทั้งหลาย และ ทุกคนเลยครับ ขอพระเจ้าอวยพรครับ