"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา”

4. พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง และทรงถูกทดลอง  (ต่อ)

 ข) พระเยซูเจ้าทรงรับการเปิดเผย
                    นักบุญมาระโกเล่าว่า หลังจากพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างก็ทรงรับการเปิดเผย  พระองค์ทรงจมอยู่ในน้ำทั้งพระองค์  แล้วจึงเสด็จขึ้นจากแม่น้ำจอร์แดน ทันใดนั้น ทรงเห็นท้องฟ้าถูกแหวกออก พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ดุจนกพิราบ และมีเสียงมาจากฟากฟ้าตรัสกับพระองค์
                   น่าสังเกตว่า เป็นพระเยซูเจ้าผู้ทรงเห็นและทรงได้รับถ้อยคำจากเสียงนั้น  กระนั้นก็ดี เมื่อนักบุญมาระโกบันทึกเหตุการณ์เช่นนี้ ทำให้ผู้อ่านเข้าใจลักษณะบางประการในความสัมพันธ์ระหว่างพระเยซูเจ้ากับพระบิดา ตามความคิดในพระคัมภีร์ชีวิตมนุษย์บนแผ่นดิน เหตุการณ์ต่าง ๆ สรุปได้ในคำว่า “แผ่นดิน” ส่วนคำว่า สวรรค์หรือฟากฟ้า หมายถึงที่อาศัยของพระเจ้าเป็นการเปรียบเทียบง่าย ๆ แม้พระเจ้าไม่ทรงมีสถานที่ เป็นที่ประทับเฉพาะของพระเจ้า พระองค์ทรงสำแดงพระสิริรุ่งโรจน์อย่างสมบูรณ์ในที่นั้น ส่วนมนุษย์ที่อยู่บนแผ่นดินอาจรู้สึกว่าพระเจ้าทรงทอดทิ้งเขา ทำให้รู้สึกว่าฟากฟ้าปิดอยู่และเขาถูกขังอยู่ใต้ฟากฟ้านั้น เพราะได้แยกตนออกจากพระเจ้า สถานการณ์เช่นนี้ช่วยเราให้เข้าใจคำภาวนาวอนขอของประกาศกอิสยาห์ว่า “เหตุไฉนพระองค์จึงไม่ทรงแหวกท้องฟ้าและเสด็จลงมาเล่า” (อสย 63:19)

                ดังนั้น พระเยซูเจ้าทรงเห็นฟากฟ้าเปิดอยู่หมายความว่า ความห่างไกลระหว่างโลกมนุษย์กับพระเจ้าสูญสิ้นไป มนุษย์กลับมีความสนิทสัมพันธ์กับพระบิดาอีกครั้งหนึ่งอาศัยพระคริสตเจ้า พระบิดาทรงส่งพระจิตเจ้าและตรัสกับพระเยซูเจ้า พระองค์จึงทรงเป็นผู้นำทางให้มนุษย์ไปเข้าเฝ้าพระบิดา นี่คือข่าวดีสำหรับมนุษย์ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนบาปและถูกขังอยู่ในโลกของความตายและความผิดหวัง แต่เขาก็ยังมีโอกาสเปิดหน้าต่างไปสู่แสงสว่างและความหวัง การที่พระจิตเจ้าเสด็จลงมาและมีเสียงจากฟากฟ้า แสดงกิจการของพระเจ้า เพราะพระจิตของพระองค์ทรงพระอานุภาพ พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระเยซูเจ้า ทรงกำหนดกิจการต่าง ๆ และทรงเป็นผู้นำพระเยซูเจ้าอีกด้วย 

                 เราไม่ค่อยเข้าใจว่า เหตุใดนักบุญมาระโกจึงเปรียบเทียบพระจิตเจ้ากับนกพิราบ บางคนคิดว่าเป็นการอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของโนอาห์   เมื่อน้ำวินาศลดลงมีเครื่องหมายนกพิราบคาบกิ่งมะกอกเทศ เป็นสัญลักษณ์แสดงว่าการลงโทษของพระเจ้าจบสิ้นแล้ว มนุษย์คืนดีกับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง (เทียบ ปฐก 8:6-12) ส่วนบางคนคิดว่า ตามกฎหมายในพันธสัญญาเดิม นกพิราบเป็นสัตว์ปีกชนิดเดียวที่ใช้ในการถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าได้  (เทียบ ลนต 5:7; 12:6ฯ) หมายความว่า นกพิราบเป็นลัญลักษณ์ของการถวายเครื่องบูชาชดเชยบาปและคืนดีกับพระเจ้า 

                ในบริบทของพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก พระเยซูเจ้าจึงอยู่ระหว่างโลกของมนุษย์ผู้เป็นคนบาปกับโลกของพระเจ้า นกพิราบเสนอแนะว่า ภารกิจสำคัญของพระเยซูเจ้าคือทำให้โลกทั้งสองคืนดีกัน เสียงจากท้องฟ้ามาถึงพระเยซูเจ้าตรัสว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา” (มก 1:11) วลีที่ว่า “ท่านเป็นบุตรที่รัก” เน้นความสัมพันธ์พิเศษกับพระเจ้า พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาและพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตร

                ส่วนภาคที่สองคือ “เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า” หมายความว่าพระเยซูเจ้าทรงทำให้พระบิดาพอพระทัยเพราะปฏิบัติภารกิจที่เริ่มต้นเวลานี้ พระเยซูเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้นที่ทรงมีความเสมอภาคกับพระบิดา เป็นผู้ที่รู้จักพระบิดา และพระบิดาทรงรู้จักพระองค์อย่างเต็มเปี่ยม ทรงมีความรักซึ่งกันและกัน ดังที่เราอ่านในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิวว่า  “พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้จักพระบุตร นอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดา นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรเปิดเผยให้รู้” (มธ 11:27)

                  ถ้าเราคำนึงถึงอุปมาที่พระเยซูเจ้าทรงเล่าเรื่อง “คนเช่าสวนชั่วร้าย” เจ้าของสวนองุ่นส่งคนใช้หลายคนไปรับผลผลิตแต่คนเช่าสวนไม่ให้แล้ว เจ้าของสวนตัดสินใจจะส่งบุตรคนเดียวของเขาดังที่เขียนในพระวรสารว่า “เจ้าของสวนยังมีคนเหลืออยู่อีกคนหนึ่ง คือบุตรสุดที่รัก เขาจึงส่งบุตรไปเป็นคนสุดท้าย” (มก 12:6) พระเยซูเจ้าจึงทรงเป็นผู้นำความรอดพ้นเด็ดขาดเพียงพระองค์เดียว พระบิดาเจ้าทรงเลือกพระเยซูเจ้าให้ปฏิบัติภารกิจนี้และพระองค์ทรงเป็นที่โปรดปรานของพระบิดา

                  คำพูดเช่นนี้ชวนเราให้ระลึกถึงข้อความในหนังสือประกาศกอิสยาห์ที่ว่า “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู เราเลือกเขาเพราะเราพอใจเขา เราให้จิตของเราแก่เขา เขาจะนำความยุติธรรมไปให้แก่นานาชาติ” (อสย 42:1) ดังนั้น ผู้อ่านต้องเข้าใจว่าภารกิจและศาสนบริการทั้งหมดของพระเยซูเจ้าสำคัญมาก พระนามที่ว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระองค์ เป็นผู้ที่พระบิดาทรงรัก แสดงว่าพระเจ้าทรงเลือกพระองค์ให้ปฏิบัติภารกิจ บัดนี้ พระทัยของพระเยซูเจ้าทรงได้รับภารกิจ หมายความว่า ทั้งพระเนตรและพระปัญญาเต็มไปด้วยพระประสงค์ของพระบิดา  พระเยซูเจ้าจึงทรงพร้อมที่จะไปปฏิบัติตามพระประสงค์ แต่ก่อนที่จะทรงเริ่มศาสนบริการ พระองค์ทรงรับการทดลองในถิ่นทุรกันดาร