ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันอังคารที่ 31 มกราคม  2017
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน ฮบ12: 1-4 / มก  5:21- 43

ในพระวรสารวันนี้ได้มีอัศจรรย์ 2 อย่างเกิดขึ้น คือ
1.การรักษาหญิงที่เป็นโรคตกโลหิต ซึ่งป่วยเป็นเวลา 12 ปี และ
2.การปลุกลูกสาวของหัวหน้าศาลาธรรมให้กลับคืนชีพ เราอาจจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในสถานที่เงียบเงียบๆ ที่มีบรรยากาศของการสวดภาวนา และรอบรอบพระแท่นที่เต็มไปด้วยกลิ่นของกำยาน นั่นเกิดขึ้นในเวลาที่ถูกต้องและในสถานที่เหมาะสม แต่ไม่ใช่เป็นอย่างนั้นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนน ที่มีประชาชนจำนวนมากเบียดเสียดกัน

ในการรักษาผู้หญิงที่เป็นโรคตกโลหิต และการทำให้บุตรสาวของหัวหน้าศาลาธรรมกลับมีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

สิ่งสำคัญซึ่งทำให้ทุกสิ่งเป็นไปได้ คือความเชื่อในพระเยซูเจ้า ของผู้หญิงที่เป็นโรคตกโลหิต และของบิดาผู้กำลังสิ้นหวัง เมื่อพระเยซูเจ้าทรงทำการรักษา พระองค์จะบอกกับบุคคลที่ต้องการรักษาว่า “ความเชื่อช่วยเจ้าให้หายโรคแล้ว”
ดูเหมือนว่าพระเยซูเจ้าไม่ทรงต้องการที่จะรักษาเพียงความเจ็บป่วยแต่อย่างเดียว แต่ต้องการทำให้ความเชื่อของบุคคลนั้นดีขึ้น เราเชื่อว่าความเชื่อในพระองค์เท่านั้น ควรจะเกิดขึ้นกับทุกคน เหมือนกับที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่เป็นโรคตกโลหิต และแก่บุตรสาวของบิดาผู้หมดหวัง แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าในบุคคลทั้ง 2 นี้  

เราจะเห็นว่าความเชื่อในพระเยซูเจ้านั้น เป็นเงื่อนไขในการรักษา แม้จะเป็นความเชื่อเท่าเมล็ดมัสตาร์ดก็ตาม
หัวหน้าศาลาธรรม ชื่อไยรัสกราบลงแทบพระบาทพร้อมวิงวอนว่า “บุตรสาวเล็กๆของข้าพเจ้าจวนจะสิ้นใจอยู่แล้ว เชิญพระองค์เสด็จไปโปรดเถิดเขาจะได้หายโรคกลับมีชีวิต “...นางคิดว่า “ถ้าฉันได้แตะต้องเพียงฉลองพระองค์เท่านั้น ฉันก็จะหายจากโรค”...

ให้เราเข้าไปใกล้พระเยซูเจ้าและบอกกับพระองค์ว่า

“ข้าแต่พระองค์โปรดเพิ่มความเชื่อแก่ลูกในเวลาที่ถูกต้อง ตั้งแต่บัดนี้และตรงนี้”…เพราะ”พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากในตาของเขาจะไม่มีความตายอีกต่อไปจะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว” (วว 21: 4)...