ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2016

สัปดาห์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา

บทอ่าน กท 1:6-12 / ลก 10:25-37

ในพระวรสารวันนี้  พระเยซูเจ้าได้เปรียบเทียบ“ความรักต่อพระเป็นเจ้า และความรักต่อเพื่อนพี่น้อง” ในเรื่องชาวซามาริตันผู้ใจดี ได้อย่างชัดเจนที่สุด

“ความรักต่อผู้อื่น” ในความหมายของปุโรหิตและชาวเลวีนั้น เป็น”ความรัก” ที่เป็นแค่ “นามธรรม” เพราะมันอยู่แค่ “ระดับสมอง” แค่มองดู แล้วก็เดินจากไป

ส่วน “ความรักต่อผู้อื่น” ในความหมายของชาวซามาริตัน เป็น “ความรัก”ที่เป็น “รูปธรรม” เพราะมันอยู่ในระดับ “หัวใจ”ที่ช่วยเหลือชาวยิวที่ถูกโจรปล้น ถูกทิ้งไว้อาการร่อแร่ ด้วยการดูแลทุกอย่าง แม้เป็นศัตรูกัน

ทำให้เราต้องคิดว่า บุคคลที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก สิ่งที่ต้องการที่สุดก็คือความเข้าใจและความช่วยเหลือจากผู้อื่น แม้ว่าเราไม่ช่วยเหลือเขา ก็ไม่ควรไปทับถมซ้ำเติมเขา เหมือนสุนัขที่จมน้ำอยู่ก็ลำบากแสนสาหัสแล้ว ยังต้องมาถูกตีซ้ำในน้ำอีก มันแสนทรมาน และนี่ก็เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมทั้งอดีตและปัจจุบัน คนที่กำลังมีปัญหาต้องการความช่วยเหลือ มนุษย์ทุกคนต้องการความอยู่รอด การที่จะอยู่ได้นอกจากเขาต้องพึ่งตนเองแล้ว ยังต้องการความช่วยเหลือจากผู้อื่น และแน่นอนเขาจะต้องไปพึ่งคนที่มีกำลังที่แข็งแรง สุนัขที่จมน้ำอยู่นั้นไม่มีราคาค่างวดเลย และยังมีคนมาตีซ้ำอีก

สุภาษิตจีนกล่าวว่า “สุนัขจมน้ำอาจตีได้ แต่คนที่ตกน้ำตีไม่ได้” เพราะเขามีวันขึ้นมาได้ ถ้าเราช่วยเขาได้ให้ช่วย ถ้าช่วยไม่ได้ก็อย่าไปตีซ้ำหรือทับถมเขาเป็นอันขาด

สอดคล้องกับคำสอนโบราณของไทยที่ว่า “ไม้ล้มพอข้ามไปได้ แต่คนล้มอย่าข้าม” เพราะเขายังมีโอกาสพลิกฟื้นยืนตนขึ้นมา

มีโปสเตอร์แผ่นหนึ่งได้เขียนข้อความว่าดังนี้ “ทุกสิ่ง หมายถึง ความเชื่อ สำหรับอาบราฮัม ..ทุกสิ่ง หมายถึง กฎหมาย สำหรับโมเสส...ทุกสิ่ง หมายถึง การกลับใจ สำหรับดาวิด...ทุกสิ่ง หมายถึง การติดตาม  สำหรับเปโตร ...ทุกสิ่ง หมายถึง การประกาศข่าวดี สำหรับเปาโล... และทุกสิ่ง หมายถึง ความรัก สำหรับพระเยซูเจ้า”