ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันจันทร์ที่ 11 กันยายน 2017
สัปดาหที่ 23 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน คส 1:24-2:3 / ลก 6:6-1
        พระเยซูเจ้าทรงขัดแย้งกับผู้นำทางศาสนา เกี่ยวกับเรื่องการแปลบทบัญญัติของวันสับบาโต การเก็บเกี่ยวข้าวเป็นสิ่งต้องห้ามในวันสับบาโต(ลก 6:1-5) เมื่อชายคนหนึ่งซึ่งมือขวารีบได้เดินเข้ามาในศาลาธรรมในวันสับบาโต พวกฟาริสีและพวกธรรมาจารย์ได้จัองมองดูพระองค์ ว่าพระองค์จะทำอย่างไร?

เราะว่าแค่มือลีบ ยังไม่ถือว่าเป็นการคุกคามชิวิต ซึ่งพระองค์สามารถจะชะลอการรักษาไปในวันรุ่งขึ้น ถ้าพระองค์รักษาคนเจ็บ พระองค์ก็จะถูกกล่าวหาวี่ละเมิดวันสับบาโต พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าพวกเขากำลังจ้องมองดูว่าพระองค์จะกระทำประการใด แต่พระองค์ทรงต้องการที่จะใช้ค้าขายพวกเขาจึงสั่งให้คนเจ็บออกมายืนอยู่ต่อหน้าที่ประชุม และเหยียดมือออกมา มีแต่ลูกาเท่านั้น ที่บอกว่าชายคนนี้มีมือขวาพิการ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขาไม่สามารถทำงานด้วยมือ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่อาจหาเลี้ยงชีพได้ พระเยซูเจ้าจึงได้ประกาศว่า การปฏิเสธทำความดี เป็นสิ่งที่ไม่ดีในตัว พระองค์จึงทำการรักษาชายคนนั้น พวกฟาริสีจึงมีความโกรธแค้น ที่พระองค์ได้ละเมิดบัญญัติของวันสับบาโต แต่ไม่รู้ว่าจะจัดการพระองค์ได้อย่างไร?..ฉันได้สวดภาวนาสำหรับคนที่ต้องการ การบำบัดรักษาหรือไม่?...ข้าแต่พระเยซูเจ้าขอพระองค์โปรดให้ลูก มีความเมตตาสงสารต่อคนที่ ต้องการขอความช่วยเหลือ...

สิ่งมหัศจรรย์คือไม่ใช่แค่เราได้ทำงานนี้ แต่เป็นการที่เรามีความสุขที่ได้ทำงานนี้…ความรักเริ่มต้นที่บ้าน และไม่ได้อยู่ที่ว่าเราทำมากเท่าไร แต่อยู่ที่เรารักที่จะทำสิ่งนั้นมากเท่าไร...

การทำงานนั้นมีความสนุก แต่ความสุขจะไม่มีจนกว่าจะตระหนักว่าประสบความสำเร็จในบางสิ่ง…โปรดกระจายความรักไปทุกๆที่ที่คุณไป และให้ผู้ที่มาหาคุณจากไปพร้อมความสุขที่มากกว่า…ความเหงาและความรู้สึกไม่เป็นที่ต้องการ เป็นความยากจนที่เลวร้ายที่สุด...เรารู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังทำเป็นเพียงแค่หยดน้ำในมหาสมุทร แต่มหาสมุทรจะเหือดแห้งหากหยดน้ำนั้นหายไป