ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม  2017
สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดา
บทอ่าน อสย 49:3,5-6 ๑ 1คร 1:1-3 / ยน 1:29-34
     ในวันฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง พระศาสนจักรได้เชิญชวนให้คริสตชน ได้เข้ามามีส่วนในปีพิธีกรรม ซึ่งเราเรียกว่า “เทศกาลธรรมดา” ในสัปดาห์ที่ 2 เทศกาลธรรมดานี้ พระวรสารได้นำพวกเราให้มาพบกับ การพบปะระหว่างพระเยซูเจ้าและยอห์น บัปติสต์ ณ แม่น้ำจอร์แดน ส่วนนักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสารนั้นเคยเป็นศิษย์ของยอห์น บัปติสต์มาก่อน พร้อมกับยากอบ เปโตร และอันดรูว์ ต่อมาพวกท่านได้เป็นสานุศิษย์ของพระเยซูเจ้า พวกท่านมาจากกาลิลี และเคยเป็นชาวประมงมาก่อน

ในพระวรสารของนักบุญยอห์น ท่านยอห์น บัปติสต์ได้รับบทบาทให้ประจักษ์พยานของพระเยซูเจ้า โดยพิจารณาจากพระนามของพระองค์ดังนี้:พระนามที่ 1 ของพระองค์ คือ “ทรงเป็นอยู่”ก่อนข้าพเจ้า พระนามที่ 2 ของพระองค์ คือ “ทรงเป็นผู้นำของพระจิตเจ้า” ท่านยอห์นได้ยืนยันว่า แม้ก่อนที่พระองค์จะทรงรับพิธีล้างจากท่านว่า “เจ้าเห็นพระจิตเจ้าเสด็จมาเหนือผู้ใด ผู้นั้นคือผู้ทำพิธีล้างเดชะพระจิตเจ้า” พระนามที่ 3 ของพระองค์ คือ “ทรงเป็นผู้รับเลือกสรรของพระเป็นเจ้า” ท่านยอห์นได้ยอมรับว่าพระเยซูเจ้า คือ พระบุตรของพระเป็นเจ้า เป็นผู้ที่ได้รับเลือก และพระเป็นเจ้าทรงพอพระทัยในพระองค์ พระนามที่ 3 ของพระองค์ คือ “ทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า” ที่ได้ทรงยอมรับความตาย เพื่อให้เราได้รับชีวิตนิรันดร คำว่า “ลูกแกะ”ได้ปรากฏชื่อในพระธรรมใหม่หลายครั้ง และทุกครั้งคำนี้หมายถึงพระเยซูเจ้า “ลูกแกะ”อาจทำให้เรารู้สึกประหลาดใจ เพราะ”ลูกแกะ”เป็นสัตว์ที่ไม่มีกำลังหรือความอดทน แต่ต้องมารับภาระที่หนัก แต่ว่าบาปและความตายกลับได้รับการชำระล้างจากลูกแกะ ที่มีลักษณะอ่อนแอ แต่มีความนบนอบ ความอ่อนโยน และความรัก จนยอมอุทิศตัวเองเพื่อรับความตาย

บรรดาคริสตชนจะเป็นสานุศิษย์ และลูกแกะของพระเจ้าได้อย่างไร?

1.ต้องยินดีทำตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ ในท่ามกลางความเลวร้ายต่างๆ

2.ต้องยินดีมอบความรัก ในท่ามกลางการใช้อำนาจ

3. ต้องยินดีเป็นผู้นบนอบ ในท่ามกลางความหยิ่งจองหอง

4.ต้องยินดีเป็นผู้รับใช้ ในท่ามกลางการมีอภิสิทธิ์ต่างๆ