ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันพุธที่ 26 ตุลาคม2016
สัปดาห์ที่ 30 เทศกลธรรมด
บทอ่าน อฟ 6:1-9 / ลก 13:22-30

       ผู้คนมักจะถามเกี่ยวกับช่วงเวลาเก่า ๆ ที่แสนดีเราควรถามกลับว่า ทำไมเราไม่ถามถึงช่วงเวลานี้ที่แสนดีบ้างล่ะ... เมื่อไรที่ฉันกังวล นั่นเป็นเพราะฉันกำลังมีชีวิตอยู่ในอนาคต...เมื่อไรที่เราหดหู่ นั่นเป็นเพราะเรากำลังเอาชีวิตไปจมอยู่ในอดีต ...พระเยซูเจ้าทรงต้องการบอกว่าการเข้าสู่พระราชัยสวรรค์นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ


โดอาศัยการสังกัดกลุ่มหรือความผูกพัน ความรอดได้เปิดไว้สำหรับทุกคน เพราะพระเป็นเจ้าทรงต้องการให้ทุกคนได้รับการไถ่กู้ พระองค์มีพระประสงค์ให้เราเป็นทายาท และ
ไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ แต่การเชื้อเชิญของพระองค์ เรียกร้องให้เราต้องลงมือปฏิบัติ เพื่อเป็นการตอบสนองพระองค์อย่างเป็นรูปธรรม “จงเข้าไปทางประตูแคบๆให้จงได้  เพราะเราบอกท่านทั้งหลายว่า หลายคนจะพยายามเข้าไป แต่ก็เข้าไปไม่ได้” เราต้องทำอะไรบ้าง?
เราควรจะกินขนมปังกับคนที่ไม่มีอะไรกินหรือไม่?
เราควรจะนำพระวาจาของพระองค์ ไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันหรือไม่? เราควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร กับคนที่ต้องการการอภัยโทษ ความเมตตากรุณา และความเข้าใจจากเรา?

พระคาร์ดินัลองค์หนึ่งป่วยหนัก ได้ส่งจดหมายไปยังพระสันตะปาปา ปีโอที่ 9 เพื่อขอพระพรพิเศษ พระองค์ได้ประทานพระพรให้ทันที พร้อมกับเขียนจดหมายตอบมีข้อความว่า “เราขอให้คำแนะนำว่า ท่านจะต้องรับประทานยา ตามที่หมอสั่งด้วย”... “ข้าแต่พระบิดาเจ้า ลูกขอโมทนาคุณพระองค์ ที่ทรงโปรดให้เข้ามาหาพระองค์ และยืนอยู่ต่อหน้าพระองค์ ลูกยังขอโมทนาคุณ ที่พระองค์ได้ทรงช่วยเหลือลูกตลอดชีวิตบนโลกนี้  ที่ได้ทำให้ความเชื่อของลูกเข้มแข็งขึ้น และมอบความไว้วางใจว่าพระองค์จะทำทุกอย่างเพื่อลูก โปรดอำนวยพระพรแลประทานความกล้าหาญให้ลูก

ขอให้แสงสว่างของพระองค์ ฉายแสงออกไปในท่ามกลางประชาชน เพื่อพวกเขาจะได้ยอมรับน้ำพระทัยของพระองค์ ขอให้แสงสว่างฉายแสงออกไป เพื่อให้พระนามของพระองค์ได้รับการสรรเสริญ และลูกจะยินดีวันใหม่
ที่พระองค์ได้ทรงมอบให้ ขอให้พระราชัยของพระองค์จงมาถึง ณ บัดนี้ อาแมน “ เพราะความคิดของเรา ไม่เป็นความคิดของเจ้า ทั้งทางของเจ้าไม่เป็นวิถีของเรา พระเจ้าตรัสดังนี้  ”
(อสย 55:8)