bible diary 2023วันพฤหัสบดีที่ 5 ตุลาคม 2023      
สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา     

บทอ่านจากหนังสือเนหะมีย์ (นหม 8:1-4ก, 5-6, 7ข-12)            

          ในเวลานั้น ประชาชนทั้งปวงมาชุมนุมพร้อมกันที่ลานหน้าประตูน้ำ ขอให้เอสราธรรมาจารย์นำหนังสือธรรมบัญญัติของโมเสส ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่อิสราเอลมาด้วย

         วันที่หนึ่งเดือนเจ็ด เอสราสมณะนำธรรมบัญญัติออกมาต่อหน้าชุมชนทั้งชายหญิงและเด็กที่มีวัยพอจะฟังเข้าใจได้ เอสราอ่านหนังสือที่ลานหน้าประตูน้ำตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงเที่ยง ต่อหน้าชายหญิงและเด็กที่มีวัยพอจะฟังเข้าใจได้ ประชากรทั้งปวงตั้งใจฟังข้อความที่อ่านจากหนังสือธรรมบัญญัติ เอสราธรรมาจารย์ยืนอยู่บนยกพื้นไม้ที่ทำขึ้นเพื่อการนี้ เอสรายืนอยู่สูงกว่าประชากรทั้งปวง ทุกคนจึงเห็นเขาได้ เมื่อเขาเปิดหนังสือ ประชากรทุกคนก็ยืนขึ้น เอสราถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ประชากรทั้งปวงก็ชูมือขึ้นพูดว่า “อาเมน อาเมน” และก้มลงหน้าจรดพื้นนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า

         ชนเลวี คือ เยชูอา บานี เชเรบิยาห์ ยามีน อักขูบ ชับเบธัย โฮดียาห์ มาอาเสอาห์ เคลิทา อาซาริยาห์ โยซาบาด คานัน เปไลยาห์ ช่วยอธิบายธรรมบัญญัติให้ประชากรเข้าใจ เขาทั้งหลายแปลข้อความจากหนังสือธรรมบัญญัติของพระเจ้าเป็นตอนๆ และอธิบายความหมายให้ประชากรเข้าใจ

        ประชากรทุกคนที่ฟังถ้อยคำของธรรมบัญญัติก็ร้องไห้ เนหะมีย์ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการ เอสราซึ่งเป็นสมณะและธรรมาจารย์ และชนเลวีผู้สอนประชากรจึงพูดกับประชากรทั้งปวงว่า “วันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน อย่าเป็นทุกข์โศกเศร้าหรือร่ำไห้เลย จงกลับไปบ้าน เลี้ยงอาหารเลิศรส ดื่มเหล้าองุ่นอย่างดี และแบ่งปันอาหารให้คนที่ไม่มี เพราะวันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อย่าเศร้าใจเลย เพราะความยินดีจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นพละกำลังของท่าน”

        บรรดาชนเลวีจึงให้ประชากรทั้งปวงสงบลง พูดว่า “อย่าร่ำไห้เลย เพราะวันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ อย่าโศกเศร้าไปเลย” ประชากรทุกคนจึงกลับบ้านไปกินและดื่ม แล้วแบ่งปันอาหารแก่ผู้อื่น เขาทั้งหลายมีความยินดีเพราะเข้าใจความหมายของถ้อยคำที่ได้ฟัง

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:1-12)

           เวลานั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแต่งตั้งศิษย์อีกเจ็ดสิบสองคน และทรงส่งเขาล่วงหน้าพระองค์เป็นคู่ๆ ไปทุกตำบลทุกเมืองที่พระองค์จะเสด็จ พระองค์ตรัสกับเขาว่า

           “ข้าวที่จะเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด จงไปเถิด เราส่งท่านทั้งหลายไปดุจลูกแกะในฝูงสุนัขป่า อย่านำถุงเงิน ย่ามหรือรองเท้าไปด้วย อย่าเสียเวลาทักทายผู้ใดตามทาง เมื่อท่านเข้าบ้านใด จงกล่าวก่อนว่า ‘สันติสุขจงมีแก่บ้านนี้เถิด’ ถ้ามีผู้สมควรจะรับสันติสุขอยู่ที่นั่น สันติสุขของท่านจะอยู่กับเขา มิฉะนั้น สันติสุขของท่านจะกลับมาอยู่กับท่านอีก จงพักอาศัยในบ้านนั้น กินและดื่มของที่เขาจะนำมาให้ เพราะว่าคนงานสมควรที่จะได้รับค่าจ้างของตน อย่าเข้าบ้านนี้ ออกบ้านโน้น

           เมื่อท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาต้อนรับท่าน จงกินของที่เขาจะนำมาตั้งให้ จงรักษาผู้เจ็บป่วยในเมืองนั้นและบอกเขาว่า ‘พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้ท่านทั้งหลายแล้ว’ แต่ถ้าท่านเข้าไปในเมืองใดและเขาไม่ต้อนรับ ก็จงออกไปกลางลานสาธารณะและกล่าวว่า ‘แม้แต่ฝุ่นจากเมืองของท่านที่ติดเท้าของเรา เราจะสลัดทิ้งไว้ปรักปรำท่าน จงรู้เถิดว่า พระอาณาจักรของพระเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว’ เราบอกท่านทั้งหลายว่า ในวันพิพากษาชาวเมืองโสดมจะรับโทษเบากว่าชาวเมืองนั้น”