พระวาจาและพระอาณาจักรของพระเจ้า

93.      งานแพร่ธรรมของพระศาสนจักรจึงไม่ใช่อะไรอย่างหนึ่งที่ต้องถือว่าเป็นของแถมตามใจในชีวิตของพระศาสนจักร แต่ต้องมุ่งเพื่อให้พระจิตเจ้าทรงทำให้เราเป็นเหมือนกับพระคริสตเจ้า เพื่อจะมีส่วนในพันธกิจเดียวกันของพระองค์ "พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น" (ยน 20:21) เพื่อจะได้แบ่งปันพระวาจากับชีวิตทั้งหมด พระวาจานี้เองผลักดันเราไปหาพี่น้อง พระวาจาส่องสว่าง ชำระ ทำให้กลับใจ  พวกเราเป็นเพียงผู้รับใช้(พระวาจา)

เพราะฉะนั้นจึงต้องค้นให้พบว่าการประกาศพระวาจาเป็นกิจการที่งดงามและต้องรีบทำ เพื่อให้พระอาณาจักรของพระเจ้าที่พระคริสตเจ้าทรงประกาศไว้ได้มาถึง เราจึงรื้อฟื้นความตระหนักถึงเรื่องนี้ ซึ่งบรรดาปิตาจารย์ของพระศาสนจักรคุ้นเคยดี คือตระหนักว่าเนื้อหาของการประกาศพระวาจาคือพระอาณาจักรของพระเจ้า (เทียบ มก 1:14-15) นั่นคือพระบุคคลของพระเยซูเจ้า(autobasileian) ดังที่โอริเจนได้กล่าวไว้[1] องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานความรอดพ้นแก่มนุษย์ทุกยุคทุกสมัย เราทุกคนเข้าใจว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่แสงสว่างของพระคริสตเจ้าจะต้องส่องสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ในทุกมิติ ได้แก่ครอบครัว สถานศึกษา วัฒนธรรม การงาน การหย่อนใจ และชีวิตสังคมด้านอื่นๆด้วย[2] ไม่เป็นเพียงประกาศคำปลอบโยน แต่ประกาศคำที่ตัดขาด ที่เชื้อเชิญให้กลับใจ และเปิดทางให้เข้าพบกับพระองค์ผู้ทรงทำให้มนุษยชาติใหม่เจริญพัฒนาขึ้น



[1] Cfr In Evangelium secundum Matthaeusm 17,7: PG 13, 1197 B; S.Hieronymus, Translatio homiliarum Oritenis in Lucam, 36: PL 26, 324-325.

[2] Cfr Benedictus XVI, Homilia dum inaugurator XII Coetus Generalis Ordinarius Synodi Episcoporum (5 Octobris 2008): AAS 100 (2008), 757.