“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระคัมภีร์คือพลังบันดาลใจของงานอภิบาล

73.      สมัชชาได้พิจารณาเรื่องนี้และเตือนให้ปฏิงานอภิบาลเป็นพิเศษโดยเน้นว่าพระวาจาของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางชีวิตของพระศาสนจักร และสนับสนุนให้ปฏิบัติงานแพร่ธรรม "ด้านพระคัมภีร์" เพิ่มขึ้น ไม่ใช่โดยเพิ่มงานอภิบาลรูปแบบอื่นเข้ามาอีก แต่ให้พระคัมภีร์เป็นพลังบันดาลใจงานอภิบาลทุกชนิด[1][2] การให้พระคัมภีร์เป็นแรงบันดาลใจของงานอภิบาลตามปรกติและในโอกาสพิเศษ ย่อมจะนำเราให้มารู้จักองค์พระคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้น ในฐานะที่ทรงเป็นผู้เปิดเผยพระบิดาและทรงเป็นการที่พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงให้เรารู้อย่างสมบูรณ์ เรื่องนี้จึงไม่หมายถึงการเพิ่มการประชุมเข้ามาอีกในเขตวัดหรือในสังฆมณฑล แต่หมายถึงการตระหนักว่าในกิจกรรมที่ปฏิบัติกันอยู่แล้วของชุมชนคริสตชนในเขตวัด ในคณะและขบวนการต่างๆ ต้องมีการพบปะเป็นการส่วนตัวกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงสื่อสารกับเราในพระวาจา ในเมื่อ "การไม่รู้จักพระคัมภีร์คือการไม่รู้จักพระคริสตเจ้า"

ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอเตือนบรรดาผู้อภิบาลและผู้มีความเชื่อทั้งหลายให้คำนึงถึงความสำคัญของการย้ำถึงพระคัมภีร์เช่นนี้ เพราะจะเป็นวิธีเหมาะที่สุดเพื่อแก้ปัญหาทางการอภิบาลบางประการที่ถูกยกขึ้นมาพิจารณาในที่ประชุมสมัชชา เช่น ปัญหาเรื่องนิกายต่างๆมากมายที่บิดเบือนความหมายและพยายามเผยแพร่การอ่านพระคัมภีร์แบบผิดๆเช่นนี้ ถ้าที่ใดสัตบุรุษไม่ได้รับความรู้พระคัมภีร์ตามความเชื่อของพระศาสนจักรในกระแสของธรรมประเพณีที่สืบทอดต่อมาถึงปัจจุบัน ที่นั่นก็จะเกิดมีช่องว่างในงานอภิบาลซึ่งจะกลายเป็นพื้นดินดี ที่นิกายต่างๆจะใช้เป็นที่ฝังรากของตนลงไป เพราะฉะนั้น จึงจำเป็นต้องจัดให้พระสงฆ์และฆราวาสได้รับการเตรียมตัวอย่างเหมาะสม เพื่อจะสั่งสอนประชากรของพระเจ้าให้เข้าถึงพระคัมภีร์ได้อย่างถูกต้องแท้จริง

นอกจากนั้น ที่ประชุมสมัชชายังเสนอแนะว่า ในงานอภิบาลน่าจะส่งเสริมให้มีการขยายตัวของคริสตชนกลุ่มย่อยมากขึ้น กลุ่มคริสตชนเหล่านี้มีครอบครัวต่างๆเป็นองค์ประกอบ ตั้งอยู่ในเขตวัด หรือผูกพันอยู่กับขบวนการต่างๆของพระศาสนจักรหรือกลุ่มคริสตชนใหม่ๆ"[3] ที่อาจช่วยส่งเสริมให้การอบรม การสวดภาวนา และความรู้พระคัมภีร์ตามความเชื่อของพระศาสนจักรเกิดขึ้นได้



[1] Propositio 30; Cfr Conc.Oecum.Vat.II, Const.dogm. de divina Revelatione Dei Verbum, 24.

[2] S.Hieronymus, Commentariorum in Isaiam libri, Prol.: PL 24, 17B.

[3] Cfr Propositio 21.

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก