“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

พระวาจาของพระเจ้าในชีวิตของพระศาสนจักร

การพบกับพระวาจาของพระเจ้าในพระคัมภีร์

72.      เป็นความจริงว่าพิธีกรรมเป็นโอกาสพิเศษเพื่อประกาศ ฟัง และเฉลิมฉลองพระวาจาของพระเจ้า และยังเป็นความจริงอีกด้วยว่าการพบปะนี้ต้องได้รับการเตรียมตัวในใจของบรรดาผู้มีความเชื่อ เพื่อเขาจะได้รับและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระวาจานั้นได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยแท้จริงแล้วชีวิตคริสตชนหมายถึงการพบกับพระเยซูคริสตเจ้าซึ่งทรงเรียกเราให้ติดตามพระองค์ ดังนั้นสมัชชาพระสังฆราชจึงกล่าวบ่อยมาก ถึงความสำคัญยิ่งของการเอาใจใส่งานอภิบาลในชุมชนคริสตชนต่างๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แต่ละคนจะวางแนวทางทั้งส่วนตัวและส่วนรวมเพื่อมุ่งไปหาพระวาจาของพระเจ้า และวางพื้นฐานของชีวิตจิตของตนอย่างแท้จริง. พร้อมกับบรรดาพระสังฆราชแห่งสมัชชาข้าพเจ้ามีความปรารถนาอย่างยิ่ง "ให้เกิดช่วงเวลาใหม่ที่สมาชิกประชากรของพระเจ้าทุกคนจะแสดงความรักมากยิ่งขึ้นต่อพระคัมภีร์ เพื่อว่าเมื่อได้ภาวนาและอ่านด้วยความเชื่อ พร้อมกับเวลาที่ผ่านไป  บรรดาผู้มีความเชื่อจะได้ค่อยๆมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับองค์พระเยซูเจ้า"[1]

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของพระศาสนจักร นักบุญหลายองค์กล่าวถึงความจำเป็นที่จะรู้จักพระคัมภีร์เพื่อมีความรักต่อพระคริสตเจ้ายิ่งขึ้น เรื่องนี้เห็นได้ชัดในงานเขียนของบรรดาปิตาจารย์  นักบุญเยโรมซึ่งรักพระวาจาของพระเจ้าอย่างมากเคยถามตนเองว่า "จะมีชีวิตอื่นได้อย่างไรที่ไม่มีความรู้เรื่องพระคัมภีร์ ซึ่งช่วยให้เรารู้จักพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นชีวิตของบรรดาผู้มีความเชื่อ"[2] ท่านนักบุญรู้ดีว่าพระคัมภีร์เป็นเครื่องมือ "ที่ช่วยให้ผู้มีความเชื่อสนทนากับพระเจ้าได้ทุกวัน"[3] ท่านแนะนำนางเลตาสุภาพสตรีชาวโรมเรื่องการอบรมบุตรสาวดังนี้ "จงให้เขาศึกษาข้อความตอนหนึ่งของพระคัมภีร์ทุกวัน***..... การอ่านต้องตามการภาวนา การภาวนาต้องตามการอ่าน.... ให้เขารักพระคัมภีร์แทนที่จะรักเพชรพลอยและผ้าไหม"[4] ข้อความที่นักบุญเยโรมเขียนถึงพระสงฆ์ชื่อเนโปเซียนอาจใช้กับเราได้ด้วย "จงอ่านพระคัมภีร์บ่อยๆ ยิ่งกว่านั้น อย่าให้การอ่านพระคัมภีร์หลุดจากมือท่านเลย ท่านจะสอนอะไรก็จงเรียนรู้จากพระคัมภีร์เถิด"[5] ให้เราปฏิบัติตามแบบฉบับของนักบุญยิ่งใหญ่ท่านนี้ ซึ่งใช้ชีวิตของท่านเพื่อศึกษาพระคัมภีร์และให้คำแปลพระคัมภีร์เป็นภาษาละติน ที่เรียกว่าฉบับ Vulgata แก่พระศาสนจักร และให้เราปฏิบัติตามแบบฉบับของนักบุญทุกองค์ที่คิดว่าการพบกับพระคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางของชีวิต เราจงรื้อฟื้นการศึกษาเพื่อจะเข้าใจพระวาจาที่พระเจ้าประทานแก่พระศาสนจักรให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ถ้าทำเช่นนี้ เราจะเข้าถึง "วิธีดำเนินชีวิตคริสตชนในแบบที่สูงกว่าธรรมดา"[6] ชีวิตเช่นนี้ต้องได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยการฟังพระวาจาของพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ ดังที่สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงปรารถนาเมื่อเริ่มคริสตสหัสวรรษที่สาม


[1] Propositio 9.

[2] Epistula 30,7: CSEL 54, p. 246.

[3] Id., Epistula 133, 13: CSEL 56, p. 260.

*** แปลตามตัวอักษรว่า "จงให้เขาเด็ดดอกไม้ของพระคัมภีร์มาให้ท่านทุกวัน"

[4] Id., Epistula 107, 9.12: CSEL 55, p. 300,302.

[5] Id., Epistula 52, 7: CSEL 54, p. 426.

[6] Litt.ap. Novo millennio ineunte (6 Ianuarii 2001), 31: AAS 93 (2001), 287-288.

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก