บทเทศน์โดยพระสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์  วีระ  อาภรณ์รัตน์

วันอาทิตย์ที่ 27 เทศกาลธรรมดา
วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2017
บทอ่าน อสย 5:1-7 ; ฟป 4:6-9 ; มธ 21:33-43
คนเช่าสวนชั่วร้าย
          เราฟังอุปมาเกี่ยวกับอาณาจักรสวรรค์ ในพระวรสารนักบุญมัทธิว
ผลของอาณาจักรสวรรค์
อุปมาวันนี้ เรื่องคนเช่าสวนชั่วร้าย ที่ใช้ชื่อเช่นนี้มิใช่แค่ฆ่าบุตรของเจ้าของสวนเท่านั้น อุปมานี้เกี่ยวกับสวนองุ่นที่ไม่ให้ผลเลย คนรับผิดชอบ คือ คนเช่าสวน ได้กระทำต่อผู้รับใช้ที่ไปเก็บผล (ค่าเช่า) อย่างโหดร้าย (วรรคที่ 35)


         ผลคืออะไร นี่เป็นคำถามสำคัญเพื่อเข้าใจความหมายพระคัมภีร์ตอนนี้ บทอ่านที่หนึ่ง จากประกาศกอิสยาห์ ช่วยเราให้มีคำตอบที่เหมาะสม เป็นบทเพลงเกี่ยวกับเพื่อนรักและสวนองุ่น ประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า สิ่งที่เขาได้ปลูก พระเจ้า “ทรงหวังความยุติธรรม แล้วทรงพบแต่การนองเลือด ทรงหวังความชอบธรรม กลับทรงพบเสียงร้องให้ช่วย” (อสย 5:7) ความยุติธรรมและความชอบธรรม เป็นคำสอนหลักประการหนึ่งในพันธสัญญาเดิม วิธีแสดงความซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาระหว่างพระเจ้าและประชากรของพระองค์ พระเจ้าแห่งชีวิตและความรัก ทรงต้องการความยุติธรรมปกครองท่ามกลางประชากรของพระองค์ และทรงต้องการให้เคารพสิทธิของทุกคน เป็นพิเศษคนจนที่สุด นี่คือผลของพระเจ้าทรงปลูกและเอาใจใส่ดูแลสวนองุ่น และหวังผลนี้

ความยุติธรรมและฆาตกรรม
      นี่คือสาระของอุปมาที่เรากำลังพิจารณา คนเช่าสวนไม่ยุติธรรมและไม่ชอบธรรม ร้ายกว่านั้นอีกยังฆ่าผู้รับใช้ จึงถูกกำจัดอย่างโหดเหี้ยม ในพระคัมภีร์มีการกดขี่คนจนบ่อยๆ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนเช่าสวนกระทำกับผู้รับใช้ที่เจ้าของสวนได้ส่งไป เป็นพฤติกรรมที่เขาทำประจำ คนเช่าสวนมิใช่ฆ่าผู้รับใช้เท่านั้น หรือแม้แต่ฆ่าบุตรเจ้าของสวนด้วย แต่เพราะเขาปล้นสะดมคนจน และละเมิดสิทธิคนจน ไม่มีความยุติธรรมซึ่งพระเจ้าทรงเรียกร้อง ผลก็คือ อาณาจักรพระเจ้าจะเป็นของคนอื่น นี่เป็นคำสอนสำคัญแม้ในสมัยปัจจุบัน ในสถานการณ์ที่ประชาชนเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐาน คือ มีอาหารรับประทาน (มีน้ำดื่ม)

      บรรดาผู้นำของอิสราเอลจึงเป็นปฏิปักษ์กับพระเยซูเจ้า (วรรคที่ 42-43) ทำให้เราต้องถามตัวเองด้วยว่า เรามีส่วนร่วมกับคนเช่าสวนชั่วร้ายบ้างไหมในชีวิตประจำวันของเรา ลองถามตนเอง เช่น เรามีส่วนสร้างความยุติธรรมและความชอบธรรมบ้างไหม ผลของเราคืออะไร พระวรสารของนักบุญมัทธิวบทต่อไปจะบอกเราว่า การไม่เลี้ยงดูคนจนก็เท่ากับปฏิเสธพระเยซูเจ้าเอง ซึ่งหมายถึงการประณามคนจนและพระเยซูเจ้าจนสิ้นพระชนม์ การเป็นคริสตชน คือ การให้ชีวิต นี่เป็นสิ่งที่พระวรสารต้องการสอนเรา ถ้าเราปฏิบัติตามพระเจ้าแห่งสันติจะสถิตอยู่กับเรา (ฟป 4:6-9)

พระสังฆราช วีระ อาภรณ์รัตน์ แปล
จาก Sharing the Word Through the Liturgical Year
โดย Gustaro Gutierrez, หน้า 234-236.