“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2017
สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลธรรมดา
มก 9:2-13
ต่อมาอีกหกวัน พระเยซูเจ้าทรงพาเปโตร ยากอบ และยอห์นขึ้นไปบนภูเขาสูงตามลำพัง แล้วพระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยนไปต่อหน้าเขา 3ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกทำให้ขาวเช่นนั้นได้ 4แล้วประกาศกเอลียาห์กับโมเสสแสดงตนสนทนาอยู่กับพระเยซูเจ้า

5เปโตรจึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง ๆ เราจงสร้างเพิงขึ้นสามหลังเถิด หลังหนึ่งสำหรับพระองค์ หลังหนึ่งสำหรับโมเสส อีกหลังหนึ่งสำหรับประกาศกเอลียาห์” 6เขาไม่รู้ว่ากำลังพูดอะไรเพราะศิษย์ทั้งสามคนต่างตกใจกลัว 7ครั้นแล้วเมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้ มีเสียงหนึ่งออกมาจากเมฆก้อนนั้นว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” 8ทันใดนั้น ศิษย์ทั้งสามคนเหลียวมองรอบ ๆ ไม่เห็นผู้ใดอยู่กับตนนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น
9ขณะที่กำลังลงจากภูเขา พระองค์ตรัสสั่งเขามิให้เล่าเหตุการณ์ที่เห็นให้ผู้ใดฟัง จนกว่าบุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย 10ศิษย์ทั้งสามคนเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใครแต่ยังปรึกษากันว่า “จนกว่าจะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย” นี้ หมายความว่าอย่างไร 11เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “เหตุใดบรรดาธรรมาจารย์กล่าวว่า ประกาศกเอลียาห์จะต้องมาก่อน” 12พระองค์ตรัสตอบว่า “ใช่แล้ว เอลียาห์มาก่อนเพื่อจัดทุกสิ่งให้เข้าสภาพเดิม พระคัมภีร์เขียนไว้อย่างไรเกี่ยวกับบุตรแห่งมนุษย์ พระคัมภีร์เขียนว่าบุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทุกข์ทรมานอย่างมาก และถูกเหยียดหยาม 13ดังนั้นเราบอกท่านว่า “ประกาศกเอลียาห์ได้มาแล้ว และประชาชนทั้งหลายได้กระทำกับเขาตามความพอใจ ดังที่มีเขียนถึงเขาไว้ในพระคัมภีร์”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• วันนี้เรามาศึกษาไตร่ตรองเรื่องราวการสำแดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์ บนภูเขาทาบอร์ และเรื่องราวขณะเดินกลับลงมาจากภูเขา เรื่องราวต่อเนื่องมากๆ ในพระวรสารนักบุญมาระโก...

• เรื่องนี้ต้องอ่านเปรียบเทียบกับหนังสืออพยพ บทที่ 24

1พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า 'ท่านจงขึ้นไปเฝ้าพระยาห์เวห์บนภูเขาพร้อมกับอาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสชาวอิสราเอลอีกเจ็ดสิบคน ท่านทั้งหลายจะต้องกราบนมัสการเราอยู่ห่าง ๆ 2โมเสสเท่านั้นจะเข้าใกล้พระยาห์เวห์ได้ ส่วนคนอื่นจะเข้าใกล้ไม่ได้ และประชากรจะไม่ขึ้นไปพร้อมกับเขา'
9แล้วโมเสส อาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสชาวอิสราเอลเจ็บสิบคนขึ้นไปบนภูเขา 10และเห็นพระเจ้าของอิสราเอล ใต้พระบาทของพระองค์เป็นพื้นสุกใสเหมือนนิลสีครามบริสุทธิ์ดังท้องฟ้า...
12พระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า 'ท่านจงขึ้นมาหาเราบนภูเขานี้ และจงอยู่ที่นี่เถิด ...13โมเสสพร้อมกับโยชูวา ผู้ช่วยจึงเตรียมตัวขึ้นไป บนภูเขาของพระเจ้า 14เขาสั่งบรรดาผู้อาวุโสว่า 'ท่านทั้งหลายจงคอยอยู่ที่นี่จนกว่าเราจะกลับมาหาท่าน อาโรนและเฮอร์จะอยู่ที่นี่กับท่านทั้งหลาย ใครมีข้อพิพาท ก็จงมาหาเขาทั้งสองเถิด' 15โมเสสขึ้นไปบนภูเขา แล้วเมฆปกคลุมภูเขาไว้ 16พระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์ ลงมาอยู่บนภูเขาซีนาย เมฆปกคลุมภูเขานั้นไว้เป็นเวลาหกวัน ในวันที่เจ็ด พระยาห์เวห์ทรงเรียกโมเสสจากกลางเมฆนั้น 17ชาวอิสราเอลเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์เป็นเหมือนไฟลุกลามอยู่บนยอดเขา 18โมเสสเข้าไปในกลุ่มเมฆแล้วขึ้นไปบนภูเขา โมเสสอยู่บนภูเขาเป็นเวลาสี่สิบวันสี่สิบคืน

ประเด็นสำคัญ:

• เนื้อหาสาระของเรื่องนี้มีความใกล้ชิดอย่างมากกับ อพยพ 24

• การขึ้นไปบนภูเขา เพื่อประจักษ์พระวรกายอย่างรุ่งโรจน์นี้ มีเฉพาะเปโตร ยากอบ และยอห์น ติดตามพระองค์ขึ้นไป คนอื่นๆ อยู่ที่ที่ราบเชิงเขา
o ทำไมมีเพียงสามคนที่ถูกเรียกเป็นพิเศษเพื่อการนี้ สังเกตว่า ทั้งสามคนนี้อยู่ในเหตุการณ์สำคัญของพระเยซูเจ้าเสมอ (มก 5:37; 14:33) เทียบ มก 3:16 สามคนนี้อยู่ในลำดับแรกของรายชื่ออัครสาวกของพระเยซูเจ้า
o จำนวนสามเป็นจำนวนที่เกี่ยวกับพยานสำคัญ ซึ่งต้องมีสองคนขึ้นไป เทียบ อพย 24:9 “แล้วโมเสส อาโรน นาดับ อาบีฮู และผู้อาวุโสชาวอิสราเอลเจ็บสิบคนขึ้นไปบนภูเขา”

• บนภูเขาสูง ตามลำพัง ความหมาย...
o ภูเขาสูง ที่ประทับของพระเจ้า เป็นที่มนุษย์ขึ้นไปพบกับพระเจ้า
o พระวรกายของพระองค์ก็เปลี่ยน ลักษณะของคำกริยานี้เป็นแบบ Passive ซึ่งเน้นว่าการสำแดงพระวรกายนี้เป็นการกระทำของพระเจ้า “Divine Passive”
o ฉลองพระองค์กลับมีสีขาวเจิดจ้า ขาวผ่องอย่างที่ไม่มีช่างซักฟอกคนใดในโลกทำให้ขาวเช่นนั้นได้ และนี่คือผลของการกระทำของพระเจ้าซึ่งเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ ในมัทธิวและลูกาเน้นที่พระพักตร์ของพระองค์ขาว

• เอลียาห์กับโมเสส ประจักษ์มาสนทนากับพระองค์... ความหมาย
o สองสถาบันของชาวยิวที่ประคับประคองชีวิตให้ปฏิบัติตนซื่อสัตย์ต่อยาห์เวห์ โมเสสคือผู้มอบกฎหมาย และเอลียาห์คือผู้ตำหนิติเตียน ความนอกใจของประชากร (เทียบ มลค 3:22-23 HB) แต่ข้อสังเกตคือ ทั้งสองคนนี้กลับปรากฎตัวมาสนทนากับพระเยซูเจ้า พิจารณาดีๆ ใครยิ่งใหญ่กว่ากัน
o พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้า โมเสสกับเอลียาห์เป็นเพียงผู้รับใช้ของพระเจ้า

• เมฆก้อนหนึ่งลอยมาปกคลุมเขาไว้ มีเสียงหนึ่งออกมาจากก้อนเมฆ ความหมาย
o นี่หมายถึงการประทับอยู่อย่างซ่อนเร้นของพระเจ้า มีเสียง แต่เมฆปกคลุมทำให้ไม่เห็นสิ่งใดมากกว่านั้น

• เสียงจากเมฆ คำสั่ง... “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด”
o นี่คือคำประกาศที่สำคัญที่สุด
o โมเสสเป็นผู้นำด้านกฏหมาย
o เอลียาห์เป็นยอดประกาศกที่ซื่อสัตย์ต่อยาห์เวห์
o ประชาชนในพันธสัญญาเดิมเคยติดตามท่านทั้งสอง
o แต่ที่นี่คือ “บุตรสุดที่รัก” และคำสั่งที่ตามมาก็คือ “จงเชื่อฟังท่านเถิด” (Shema “จงฟัง” คำสั่งที่เคยให้ฟังโมเสส เปลี่ยนไป จากกฎของยาห์เวห์ที่ประทานทางโมเสส แต่บัดนี้ฟัง ซึ่งหมายถึงเชื่อฟังและปฏิบัติตามพระบุตร)

• “ทันใดนั้น ศิษย์ทั้งสามคนเหลียวมองรอบ ๆ ไม่เห็นผู้ใดอยู่กับตนนอกจากพระเยซูเจ้าเท่านั้น” ความหมาย
o เป็นการยืนยันว่า ต่อไปนี้ ไม่ใช่โมเสส ไม่ใช่เอลียาห์
o แต่ พระเยซูคริสตเจ้าเท่านั้น ที่บรรดาศิษย์ต้องเชื่อฟัง และติดตามพระองค์

• ขณะลงจากภูเขา...
o พระองค์ตรัสสั่งเขามิให้เล่าเหตุการณ์ที่เห็นให้ผู้ใดฟัง จนกว่าบุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
o สังเกตว่า เรื่องราวเกี่ยวกับพระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้านั้น ยังไม่ถึงเวลาต้องเล่าให้ใครฟัง หรือเป็นไปได้ไหมที่ทรงสั่งห้ามบอกแก่ผู้ใด...เพราะพระองค์บอกให้รอจนกว่าบุตรแห่งมนุษย์จะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย
o นั่นหมายความว่า พระธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้าทั้งครบนั้นย่อมต้องประกอบด้วยรหัสธรรมปัสกาทั้งครบ คือ พระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพ
o สิ่งที่สำคัญคือ พระองค์เป็นพระคริสต์จริงตามที่เปโตรประกาศไว้ และยืนยันโดยการสำแดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์ แต่ทว่า... พระองค์เป็นพระคริสต์ที่ต้องรับทนทรมานด้วย

• ศิษย์ทั้งสามคนเก็บเรื่องนี้ไว้ไม่บอกใครแต่ยังปรึกษากันว่า “จนกว่าจะกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย” นี้ หมายความว่าอย่างไร
o นี่คือคำตอบที่ว่า บรรดาศิษย์นั้นยังขาดความเข้าใจ เขายังคงปรึกษาหารือกัน เพราะพวกเขายังไม่ได้เข้าใจพระคริสต์ในส่วนที่ต้องรับทรมาน และสิ้นพระชนม์นั้นเอง
o อาจกล่าวได้ว่า พวกเขาเข้าใจพระคริสต์ในฐานะที่รุ่งโรจน์ และเป็นพระแมสซียาห์ ตามที่เขาคิดว่าจะมาเพื่อปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ในเยรูซาเล็ม
o เราต้องไม่ลืมว่า พระเยซูเจ้ากำลังจะไปกรุงเยรูซาแล็ม และผู้ติดตามพระองค์ส่วนใหญ่คิด และแน่ใจว่า พระองค์จะเสด็จไปเพื่อปลดอำนาจโรมลงจากอิสราแอล

• ศิษย์ถามพระองค์ขณะลงจากภูเขา... “ทำไมเอลียาห์ต้องมาก่อน” (เพราะเขาเพิ่งเห็นเอลียาห์กับโมเสส)
o ต่อคำถามนี้ ทำให้แน่ใจว่า พวกศิษย์เข้าใจว่าพระเยซูเจ้ากำลังจะไปปราบดาภิเษกจริง เพราะตามพระคัมภีร์กล่าวว่า เมื่อพระแมสซียาห์จะมา เอลียาห์ต้องมาก่อน เพื่อนำหน้าพระองค์
o ตามหนังสือประกาศกมาลาคีที่บอกว่า ในวันของพระยาห์เวห์จะมาถึง เอลียาห์จะต้องนำหน้า มาก่อน... “ดูซิ เราจะส่งประกาศกเอลียาห์มาหาท่าน ก่อนที่วันยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวของพระยาห์เวห์จะมาถึง เขาจะทำให้ใจของพ่อกลับมาหาลูก และใจของลูกกลับไปหาพ่อ เพื่อเราจะไม่ต้องมาทำลายล้างแผ่นดิน” (มลค 3:23-24)
o ดังนั้น ศิษย์ทั้งสามคนถามพระองค์ถึงเอลียาห์ เพราะเขารู้จักหนังสือประกาศกมาลาคี และรู้ว่า เอลียาห์จะมาก่อนวันของพระยาห์เวห์ และที่สำคัญเขาเพิ่งเห็นเอลียาห์มาสนทนกับพระเยซู..
o เขาถามพระองค์ “ทำไมเอลียาห์ต้องมาก่อน” อาจเพียงเพื่อต้องการให้พระเยซูเจ้าตอบยืนยันว่าพระองค์เป็นพระคริสต์แบบที่พวกเขาคิดจริงๆ เพราะถ้าเอลียาห์มา ตามที่ประกาศกมาลาคีบอก... พระแมสซียาห์หรือพระคริสตเจ้าก็กำลังมา พวกเขาต้องการให้พระองค์ยืนยันให้พวกเขามั่นใจว่าพระองค์ คือ พระคริสต์ที่จะมาเป็นกษัตริย์ปลดปล่อยประชากรจากชาวโรม และพวกเขาหวังจะได้เป็นใหญ่กับพระองค์ โดยไม่ได้คิดหรือยอมรับได้ว่า พระองค์จะรับทรมานและสิ้นพระชนม์

• พระเยซูเจ้าตรัส “ใช่แล้ว เอลียาห์มาก่อนเพื่อจัดทุกสิ่งให้เข้าสภาพเดิม พระคัมภีร์เขียนไว้อย่างไรเกี่ยวกับบุตรแห่งมนุษย์ พระคัมภีร์เขียนว่าบุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทุกข์ทรมานอย่างมาก และถูกเหยียดหยาม”
o นี่คือคำตอบของพระเยซูเจ้าที่ตอกย้ำให้รู้ว่า พระคัมภีร์ที่เขียนไว้เกี่ยวกับเอลียาห์ต้องเป็นความจริง และที่เขียนไว้เกี่ยวกับพระเยซูที่จะต้องรับทรมานก็ต้องเป็นความจริงๆ
o พระองค์พยายามพาบรรดาศิษย์ให้เข้าใจ เข้าใจถ่องแท้ว่าพระองค์ที่ทรงเป็นพระคริสตเจ้าผู้ที่ต้องรับทรมานและสิ้นพระชนม์ ถ้าพวกเขาอยากติดตามพระองค์ต้องติดตามพระองค์พร้อมกับไม้กางเขนและพระทรมาน...
o พระองค์พยายามที่จะให้พวกเขาเข้าใจและให้ยอมรับพระคริสต์ทั้งครบอย่างแท้จริง

การไตร่ตรอง: ชีวิตของเราเชื่อฟังใคร

เราพบความจริงจากพระวรสารนักบุญมาระโกว่า พระเยซูเจ้าคือพระบุตรของพระเจ้า และเราถูกเรียกร้องให้ฟัง “เชื่อฟัง” พระองค์ (อยู่กับพระองค์)
• ชีวิตของเราทุกวันนี้ เราเชื่อฟังใคร??
• เราเชื่อฟังพระเยซูเจ้าจริงหรือ??
• เราอยู่กับพระองค์จริงๆ หรือเราอยู่ในที่ที่เรียกว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ที่นี่สบายน่าอยู่จริง ๆ”??
• ศูนย์กลางชีวิตของเราแต่ละคนอยู่ที่พระเยซูเจ้าหรือไม่ อย่างไร??

• พระเยซูเจ้าทรงทำให้บรรดาศิษย์เห็นความรุ่งโรจน์ของพระองค์ก็จริง แต่ขณะนั้นเองพระองค์ทรงสอนเขา และพยายามเปลี่ยนความเข้าใจของเขาให้รับรู้ และยอมรับความจริงของพระคริสตเจ้า คือความบริบูรณ์ในองค์พระคริสตเจ้านั่นเอง แต่ดูเหมือนบรรดาศิษย์จะพยายามที่จะเข้าใจพระองค์ในฐานะพระคริสต์ที่รุ่งเรือง ซึ่งเป็นการยอมรับพระองค์เพียงบางส่วนเท่านั้น
• สำหรับเราทุกคน เรายอมรับพระคริสตเจ้าทั้งครบหรือไม่???
• ต่อปัญหาในชีวิต ในหน้าที่การงาน หรือความยากลำบากต่างๆ นั้น เราเผชิญปัญหานี้อย่างไร???
• เราเคยมีคำถามในทำนองนี้บ้างไหมเมื่อต้องเผชิญกับความยากลำบาก คำถามที่มองหาแต่ส่วนที่เป็นความสุขหรือความสำเร็จเท่านั้น โดยไม่ได้ยอมรับความจริงว่า ความทุกข์ คือส่วนหนึ่งของการติดตามพระคริสตเจ้า บนหนทางแห่งไม้กางเขนของพระองค์

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2024
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2024 วันศุกร์ สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อสย 52:13-53:12) องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ผู้รับใช้ของเราจะเจริญรุ่งเรือง เขาจะได้รับการยกย่องเทิดทูนให้สูงยิ่ง คนจำนวนมากจะตกตะลึงเมื่อเห็นเขา หน้าตาของเขาเสียโฉมจนไม่เหมือนหน้าตามนุษย์ รูปร่างของเขาก็ผิดไปจากรูปร่างของผู้คน ดังนั้น ชนหลายชาติจะตกตะลึงเมื่อเห็นเขา บรรดากษัตริย์จะทรงเงียบงันต่อหน้าเขา เพราะจะทรงเห็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยบอก และจะทรงเข้าใจสิ่งที่ไม่ทรงเคยได้ยิน” ใครเล่าได้เชื่อสิ่งที่พวกเราได้ยินมา องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงพระอานุภาพให้แก่ผู้ใดบ้าง ผู้รับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าเติบโตเฉพาะพระพักตร์เหมือนต้นไม้อ่อน เหมือนรากไม้ในดินแห้ง เขาไม่มีความสง่าหรือความงามใดที่จะดึงดูดสายตาของเรา เขาไม่มีหน้าตาที่ชวนมองเลยทุกคนดูถูกและเหยียดหยามเขา...
วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2024 วันพฤหัสฯ สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์บทอ่านจากหนังสืออพยพ (อพย 12:1-8,11-14) องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสและอาโรนในแผ่นดินอียิปต์ว่า “เดือนนี้จะเป็นเดือนแรกสำหรับท่านทั้งหลาย...
วันพุธที่ 27 มีนาคม 2024 วันพุธ สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อสย 50:4-9ก) องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าประทานให้ข้าพเจ้ามีลิ้น...
วันอังคารที่ 26 มีนาคม 2024 วันอังคาร สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ (อสย 49:1-6) ดินแดนชายทะเลและเกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)
การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)+++++++++++วันที่ 14 มีนาคม 2024 7 โมงเช้าวันนี้ ซิสเตอร์...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)
การประชุม CBF -SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)13 มีนาคม 2024 + 9...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)อังคารที่ 12 มีนาคม เริ่มเช้าวันใหม่...
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง++++++++++11 มีนาคม 2024 อาร์คบิชอป ไซม่อน โป แห่งอัครสังฆมณฑล คูชิง...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย ครั้งที่ 1 /2024
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) สมัยสามัญ ครั้งที่ 1 /2024 วันจันทร์ที่ 4...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 8 วันพุธที่...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (1)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (มก 15:42-47) 1542วันนั้นเป็นวันเตรียม คือวันก่อนวันสับบาโต 43ครั้นถึงเวลาเย็น โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกน่านับถือคนหนึ่งของสภาซันเฮดรินและกำลังรอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้า...
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ” (2)
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ” 86. กลุ่มสตรีที่เนินกัลวารีโอ (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในสตรีเหล่านี้ เราเห็นความรักมั่นคง ความซื่อสัตย์...
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ”
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ” 86. กลุ่มสตรีที่เนินกัลวารีโอ (มก 15:40-41) 1540สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ ในจำนวนนี้มีมารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบคนเล็กและของโยเสท และนางสะโลเม 41สตรีเหล่านี้เคยติดตามรับใช้พระองค์เมื่อพระองค์ทรงอยู่ในแคว้นกาลิลี...
“ชายคนนี้เป็นพระบุตรของพระเจ้าแน่ทีเดียว” (3)
“ชายคนนี้เป็นพระบุตรของพระเจ้าแน่ทีเดียว” 85. พระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ (3) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในพระวรสารตามคำบอกเล่านักบุญลูกา ไม้กางเขนเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพทรงเปิดดวงใจของบรรดาศิษย์ให้เข้าใจพระคัมภีร์ ในที่สุด บนไม้กางเขนพระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยว่า...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์