รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2017
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลธรรมดา
มก 6:14-29…
14กษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า เพราะพระนามของพระเยซูเจ้าเลื่องลือไป บางคนพูดว่า “ยอห์น ผู้ทำพิธีล้างได้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว ดังนั้นเขาจึงมีอำนาจทำอัศจรรย์ได้” 15บางคนพูดว่า “เขาคือเอลียาห์” บางคนก็พูดว่า “เขาเป็นประกาศกคนหนึ่งเหมือนกับประกาศกคนอื่น” 16แต่เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเช่นนี้ ก็ตรัสว่า “ยอห์นคนที่เราให้ตัดศีรษะ ได้กลับคืนชีพมาอีก”


17กษัตริย์เฮโรดองค์นี้ทรงสั่งให้จับกุมยอห์น และล่ามโซ่ขังคุกไว้ เพราะเรื่องของนางเฮโรเดียส ภรรยาของฟีลิปพระอนุชา ซึ่งกษัตริย์เฮโรดทรงรับมาเป็นมเหสี 18ยอห์นเคยทูลกษัตริย์เฮโรดว่า “ไม่ถูกต้องที่พระองค์ทรงรับภรรยาของน้องชายมาเป็นมเหสี” 19นางเฮโรเดียสจึงโกรธแค้นและปรารถนาจะฆ่ายอห์นเสีย แต่ฆ่าไม่ได้ 20เพราะกษัตริย์เฮโรดยังทรงเกรงยอห์นอยู่ ทรงทราบว่ายอห์นเป็นคนชอบธรรมและศักดิ์สิทธิ์ จึงทรงป้องกันไว้ เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงฟังคำพูดของยอห์น ทรงรู้สึกสับสน แต่ก็ทรงยินดีที่จะฟัง
21นางเฮโรเดียสได้โอกาสเมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงจัดให้มีงานเลี้ยงขุนนางกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่และคนสำคัญในแคว้นกาลิลีในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ 22บุตรหญิงของนางเฮโรเดียสออกมาเต้นรำเป็นที่พอพระทัยของกษัตริย์เฮโรด และเป็นที่พอใจของผู้รับเชิญ กษัตริย์จึงตรัสกับหญิงคนนั้นว่า “ท่านอยากได้อะไรก็ขอมาเถิด เราจะให้” 23และยังทรงสาบานอีกว่า “ท่านขออะไรเราก็จะให้ แม้จะเป็นครึ่งหนึ่งของอาณาจักรของเราก็ตาม” 24หญิงสาวจึงออกไปถามมารดาว่า “ลูกจะขออะไรดี” มารดาตอบว่า “จงขอศีรษะของยอห์น ผู้ทำพิธีล้าง” 25หญิงสาวจึงรีบกลับมาทูลกษัตริย์ทันทีว่า “หม่อมฉันขอศีรษะของยอห์นผู้ทำพิธีล้างใส่ถาดมาให้เดี๋ยวนี้” 26กษัตริย์ทรงเป็นทุกข์อย่างยิ่ง แต่เพราะได้ทรงสาบานไว้ และเพราะทรงเห็นแก่ผู้รับเชิญ ไม่ทรงปรารถนาจะขัดใจหญิงสาว 27จึงทรงสั่งเพชฌฆาตไปตัดศีรษะของยอห์นมาทันที 28เพชฌฆาตไปตัดศีรษะของยอห์นในคุก ใส่ถาดนำมาให้หญิงสาว หญิงสาวจึงนำไปให้มารดา 29เมื่อบรรดาศิษย์ของยอห์นรู้เรื่อง จึงมารับศพของยอห์น นำไปฝังไว้ในคูหา

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• นักบุญมาระโกให้ความสำคัญกับเรื่องยอห์นบัปติสมากกว่าพระวรสารเล่มอื่นๆ มีความพยายามนำเสนอผ่านทางความสับสนของเฮโรดว่า ยอห์นเป็นใครกันแน่ๆ เรื่องราวของยอห์นบัปติสทำให้เฮโรดวุ่นวายใจ ยอห์นเป็นใครกันแน่ๆ
o บางคนพูดว่า “ยอห์น ผู้ทำพิธีล้างได้กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายแล้ว
o บางคนพูดว่า “เขาคือเอลียาห์”
o บางคนก็พูดว่า “เขาเป็นประกาศกคนหนึ่งเหมือนกับประกาศกคนอื่น”
o แต่เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงได้ยินเช่นนี้ ก็ตรัสว่า “ยอห์นคนที่เราให้ตัดศีรษะ ได้กลับคืนชีพมาอีก

• ประชาชนกำลังสับสนกันเรื่องพระเยซูเจ้าผู้ทรงเทศนาสั่งสอนอย่างทรงอำนาจ กับยอห์นบัปติสที่เฮโรดได้สั่งให้ประหารชีวิตไปแล้ว... นักบุญมาระโกเป็นพระวรสารเล่มเดียวในสี่เล่มที่เล่าเรื่องการตัดศีรษะของยอห์นบัปติสในรายละเอียด ใช้พื้นที่ถึง 13 ข้อในพระวรสารเพื่ออธิบายเรื่องการตัดสินของเฮโรดและเพราะความอิจฉาริษยาโกรธแค้นของนางเฮโรเดียส เพราะยอห์นกล้าตำหนิเฮโรดเรื่องนางเฮโรเดียส ที่เฮโรดนำนางเฮโรเดียสภรรยาของน้องชายมาเป็นมเหสีของตนเอง นางเฮโรเดียสจึงโกรธแค้นยอห์นบัปติสและอยากฆ่าท่านแต่ทำไม่ได้ เพราะอันที่จริงพระคัมภีร์เล่าว่า เฮโรดเองก็เกรงท่านยอห์นและสับสนเมื่อได้ฟังยอห์นด้วย “เพราะกษัตริย์เฮโรดยังทรงเกรงยอห์นอยู่ ทรงทราบว่ายอห์นเป็นคนชอบธรรมและศักดิ์สิทธิ์ จึงทรงป้องกันไว้”

• แต่ที่สุดจนแล้วจนรอด ก็เปิดโอกาสให้กับเฮโรเดียสและลูกสาว ที่เฮโรดเองก็กลัวเสียหน้า ไม่กล้าปฏิเสธคำขอของลูกสาวของเฮโรเดียส และความเกรงใจบรรดาข้าราชการผู้ใหญ่ที่ตนเองได้ออกปากปฏิญาณไปกับลูกสาวของเฮโรเดียส... เอาละครับเรื่องนี้เราทราบดีว่าในที่สุดยอห์นถูกตัดศีรษะ

• แต่ประเด็นสำคัญคือ ทำไมมาระโกได้นำเสนอเรื่องนี้ยาวกว่าพระวรสารเล่มอื่นๆ ทำมาระโกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้...
o จากการสังเกตการศึกษามาระโกอย่างต่อเนื่อง บรรดานักวิชาการและพ่อเองพบว่ามาระโกมีเจตนาโดยตลอดพระวรสารในเรื่องการสร้างศิษย์ของพระเยซูเจ้า และศิษย์ของพระเยซูเจ้าที่พระองค์เรียกมานั้นได้รับการเชิญชวนและท้าทายให้ต้องประกาศข่าวดีเพื่อความจริง โดยเน้นความซื่อสัตย์ไม่ฉ้อโกง แต่ซื่อสัตย์จนถึงที่สุด
o ยอห์นบัปติสจึงกลายเป็น “ต้นแบบ” สำหรับบรรดาศิษย์และผู้อ่านพระวรสาร ผู้ติดตามพระเยซูเจ้าทุกคนต้องเป็นผู้ที่กล้าหาญในความจริง ต้องปฏิบัติตามความจริง และไม่กลัวการเบียดเบียนใดๆโดยเด็ดขาด แม้มีความอยุติธรรม ความเห็นแก่ตัว ความร้ายกาจของความอิจฉาริษยาโกรธแค้น ฯลฯ ศิษย์ของพระเยซูเจ้า และพระเยซูเจ้าเอง ต้องยืนหยัดและยอมตายเช่นยอห์น...
o อันที่จริง มาระโกนำเสนอความตายของยอห์น คือจุดเริ่มต้นการประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้า เรียกว่า ทันทีที่ทรงทราบว่ายอห์นถูกตัดศีรษะ พระเยซูเจ้าเสด็จไปประกาศข่าวดีโดยทันที... ต้องกลับไปอ่านบทที่ 1 ของมาระโกเลยครับ จะเห็นประเด็นนี้... “หลังจากที่ยอห์นถูกจองจำ พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังแคว้นกาลิลี ทรงประกาศเทศนาข่าวดีของพระเจ้า ตรัสว่า “เวลาที่กำหนดไว้มาถึงแล้ว พระอาณาจักรของพระเจ้าอยู่ใกล้แล้ว จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” (มก 1:14-15)
o มาระโกเน้นว่า ยอห์นถูกจับจองจำ พระเยซูเจ้าเริ่มประกาศข่าวดีทันที... สิ่งที่พ่ออยากให้เราเรียนรู้ คือ การเป็นประกาศกสำหรับโลกทุกยุคทุกสมัย แม้แต่สมัยของเราด้วย เรากลัวไม่ได้ ไม่กล้าประกาศข่าวดีไม่ได้ กลัวให้กับอำนาจทางการเมืองสังคมหรืออำนาจผิดๆไม่ได้เด็ดขาด.... พ่อยอมรับว่าไม่ง่าย แต่โลกของเรายังต้องการประกาศกอยู่เสมอครับ...

• พ่ออยากเน้นบางประเด็นครับ
o ความโกรธแค้นและอิจฉาของนางเฮโรเดียส แม้เป็นฝ่ายผิด แม้กระทำชั่วร้าย แต่ก็ต้องการปิดปากความจริง ต้องการกลบเกลื่อนความจริง พ่อยอมรับว่าสังคมปัจจุบันของเรากำลังอยู่ในสภาพเช่นนี้ไม่น้อยเหมือนกันครับ... ความรุ่งเรืองของคนบางคนบางตระกูลหรือบางครอบครัว บางพรรค บางพวก บางกรมกอง ก็มาจากความชั่วร้ายที่แอบแฝงกันอยู่ พฤติกรรมที่เลวร้ายไร้ศีลธรรมจรรยาช่างน่าเกลียดเสียจริงๆ เรามักจะมีการย้ายข้าราชการตำรวจกันระนาวเพราะเรื่อง “การค้ามนุษย์” เยอะมาก การปล่อยละเลยเพราะได้รับประโยชน์ “ส่วย” ที่ผิดกฎหมายทำลายชาติและศีลธรรม พ่อเห็นความจริงเหล่านี้เยอะจนกล้าอนุมานจริงๆว่ามันน่าจะเยอะมากๆทั่วไปหมด
o ความฉ้อโกงของคนปัจจุบันก็อาการแย่ คนใหญ่โต แข่งเอาอำนาจมาเพื่อฉ้อ... จบกันประเทศไทย.. ข้าวสารหายเป็นหมื่นแสนๆตัน มันสำปะหลังหายเป็นหมื่นตัน การค้าแบบหลอกลวงก็ไม่เคยจบสิ้น ความรวยที่มาจากการโกง ฉ้อ ไม่เคยจบสิ้น แล้วก็รวยอย่างน่าไม่อายอีกด้วย และสามารถด้วยที่จะทำร้ายคู่ต่อสู้ ไม่ยาก ถ้าใครกล้าแฉไม่แน่จริงก็อุ้มฆ่าเสียก็จบ
o ระบบแบบนี้มันช่างร้าวลึกอย่างยิ่งในแผ่นดินไทย และแผ่นดินโลกที่ยังขาดศีลธรรมจรรยาและมีศาสนาเป็นเพียงเครื่องบังหน้า หรือแม้แต่อาจมีศาสนาจริงๆ แต่ก็เป็นแบบเฮโรด คือเกรงยอห์น อยากฟังยอห์น แต่ก็ต้องฟังความอยากและความโลภหรือความเพ้อเจ้อของตนเองมากกว่าเพราะสัญญาที่ออกปากไปเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภอยากได้ลูกสาวของเฮโรเดียสที่มาเต้นรำต่อพระพักตร์... การสัญญาว่าแม้ครึ่งหนึ่งของอาณาจักรก็จะให้ส่อนัยว่าเป็นการให้สัญญาจะรับเป็นภรรยาอีกนั้นเอง ก็วนเวียนกับเรื่องเหล่านี้ อำนาจ ความโลภ โทสะ โมหะ และราคะ ไม่จบสิ้น ที่สุดก็คือต้องทำลายความจริง และเชิดชูความเท็จ
o พี่น้องที่รัก... พระเยซูเจ้ากล้าออกประกาศข่าวดีทันที พระองค์ไม่กลัว พระองค์ทรงรักในความจริง ในการประกาศ และไม่กลัวต่อความเท็จเทียมของเฮโรด.. พ่อคิดว่าประเด็นนี้คือสิ่งที่มาระโกเชิดชูมาตลอด ให้บรรดาศิษย์ขอพระเยซูเจ้ารักในความจริง และกล้าเป็นสานุศิษย์ธรรมทูตคือออกไปประกาศข่าวดีและประกาศความจริงครับ

• พี่น้องที่รัก 13 ข้อจากมาระโกที่อุทิศพื้นที่ให้เรื่องการตัดศีรษะของยอห์นบัปติส คือ การให้น้ำหนักกับการอยู่ข้างความจริง และไม่ยอมให้กับความเท็จ.. พ่อคิดว่า เราคนไทย สังคมเราต้องชัดเจน สังคมคริสตชน สังคมชุมชนวัด ชุมชนศิษย์พระคริสต์ไม่ใช่เพียงการร่วมชุมนุมในวัดวันอาทิตย์เพื่อตนเองแต่เพื่อช่วยกันสร้างสังคมใหม่ สังคมแห่งความรักเมตตาและความจริงครับ พ่อมีข้อเสนอบ้างบางประการ เพื่อเราเปลี่ยนแปลงโลกได้เราต้องเริ่มจากพวกเราครับ
o ชุมชนวัดของเรา จะได้ไหมถ้าเราจะเป็นชุมชนที่เมตตาและกรุณาที่สุด ไม่ปล่อยให้คนยากไร้ต้องสิ้นหนทางแต่เราจะช่วยเหลือเกื้อกูล แบ่งปัน.. ใช่ครับ คนมาวัดมีตั้งแต่ขับรถหรูเป็นสิบๆล้านมีบ้านขนาดหลายร้อยตารางวา จนถึงกระทั่งคนที่มารถเมล์และอยู่ชุมชนแออัดขัดดอกไปแต่ละวันอย่างน่าห่วง..
o วัดน่าจะเป็นโอกาส เป็นศูนย์รวมของความรักและการปลดปล่อยจากความยากจนด้วยการช่วยเหลือกันจะได้ไหม อย่าตำหนิคนจนเพราะพวกเขาลำบากอยู่แล้ว และพยายามทั้งชีวิตบางทีก็ไม่มีวันที่จะอยู่ได้อย่างสมศักดิ์ศรีเพราะความจน และสังคมที่ไม่เปิดโอกาส...
o พ่ออยากเห็นวัดคาทอลิก เป็นสถานที่เมตตา ที่รวมของการบริจาคแบ่งปัน และซื่อสัตย์ในเรื่องการบริหารจัดการเพื่อคนยากไร้เป็นพิเศษ
o ถ้าจิตตารมณ์ของพระคัมภีร์คือการออกจากสภาพของบาปหนัก และออกจากความยากจน การปลดหนี้ ช่วยเหลือเกื้อกูล..
o พี่น้องคาทอลิกที่เป็นเจ้าของกิจการครับ หาทางช่วยเหลือปลดหนี้ให้กับพนักงานที่ยากไร้จริงๆ ถ้ายากไร้เพราะโลภเพราะเล่นเพราะเสพเราก็คงต้องอบรมสั่งสอนและแก้ไข แต่ถ้ายากไร้เพราะความลำบากจริงๆ เป็นหนี้ท่วมตัว สำหรับเขาคือท่วมตัวแต่สำหรับเราคือเศษเสี้ยว... ลองช่วยคนที่ลำบากเป็นหนี้ติดดอกแสนโหดร้ายจะเป็นการดีแน่ๆ..
o ในบริษัท ในที่ทำงานของเรา ในโรงงานของพวกเรา มีเยอะครับ... ลองหาวิธีดูนะครับ (สมัยพ่อยู่บ้านผู้หว่าน พนักงานกู้ค้ำกันจนเดินเอียงกันจะทั้งบ้าน...เพราะความรู้น้อยและคิดน้อยอยากได้มาก สอนครบ อบรม และตั้งเครดิตยูเนียน สอนให้ออม แก้ได้เยอะเลยครับ) อาจมีหลายคนที่ลำบากจริงๆ ไม่ใช่เพราะติดพนันแต่เพราะความรู้น้อยหรือจำเป็นแบบเจียนตาย ช่วยนะครับ...
o พ่อรู้ว่าคาทอลิกเรามีไม่น้อยที่มีฐานะดีจริงๆด้วย... “สิ่งที่ท่านกับพี่น้องผู้ต่ำต้อยคนหนึ่งของเราครั้งใด ท่านทำกับเราเอง” พ่อรู้ครับว่า ไม่จำเป็น พ่อรู้รับ ว่าไม่ต้องก็ได้ ไม่ได้ผิดความยุติธรรมถ้าเราจะไม่ช่วยเหลือ... แต่ เราคริสตชนถือบัญญัติแห่งความรักครับ ความรักไม่ละเมิดความยุติธรรม และความรักสามารถก้าวเลยไปถึงการรักจนมอบเกินความยุติธรรมมากทีเดียว...
o พ่อตระหนักเสมอว่า ถ้าพ่อมีเศษเงินในรถ ลิ้นชักบางครั้งเป็นร้อยๆบาท ทิ้งไว้นานแล้วไม่เคยใช้ก็เพียงเผื่อไว้...แต่ถ้าพ่อขับรถผ่านไปแล้วพี่น้องบางคนกำลังอดตาย หิว ไม่มีเงินจะซื้ออาหาร พ่อรู้สึกว่าเงินที่อยู่ในรถพ่อนั้นทำให้พ่อขาดความรักจริงๆ เราต้องแบ่งปันครับ... คริสตชนของเราเคยผ่านไปกับพ่ออีกท่าน พบลุงแก่ท่าทางหิวและขอทานที่หน้าเซเว่นแห่งหนึ่ง.. คริสตชนน่ารักกับพ่อองค์นั้นตัดสินใจซื้ออาหารข้าวห่อ ผลไม้ และนั่งลงมอบให้ลุงคนนั้น.. เขากินอย่างหิวโหยและขอบคุณ เขามีความสุขมาก เขาหิวจริงครับ... คริสตชนกับพ่อคนนั้นทำแบบนี้น่ารักมากครับ...
o มีอีกหลายอย่าที่เราจะทำได้ ที่เราจะทวนกระแสเพื่อประกาศข่าวดีครับ ร่วมใจกันนะครับ มาระโกต้องการเน้นให้คริสตชนรู้ว่าการเจริญชีวิตในความจริง และไม่กลัวความเท็จจะทำให้พระอาณาจักรของพระเจ้าได้รับการสถาปนาขึ้นจริงๆ คือพระอาณาจักรแห่งความรักและเมตตาและความยุติธรรมครับ... เราต้องช่วยกันสถาปนาพระอาณาจักรพระเจ้าครับ... พระองค์ประกาศ “พระอาณาจักรของพระเจ้ามาถึงแล้ว”
o ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านให้กล้าเจริญชีวิตในความรักและรักในความจริงครับ....