ไตร่ตรองพระวาจา  โดย..คุณพ่อชวลิต  กิจเจริญวันอังคารที่ 27 ธันวาคม  2016
ฉลองนักบุญยอห์น อัครสาวกและผู้นิพนธ์พระวรสาร
บทอ่าน 1ยน1-4 / ยน 20:1-8
      มารีย์ชาวมักดาลา มีความรักและศรัทธาในพระเยซูเจ้าเป็นอย่างยิ่ง จนไม่มีใครขัดขวางมิให้เธอวิ่งไปยังหลุมที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้าได้ ในเช้าตรู่วันอาทิตย์ โดยไม่สนใจว่าจะมีใครกล่าวหาที่เธอกำลังทำสิ่งนั้น  แต่เธอมีความคิดเพียงอย่างเดียวว่า เธอจะต้องไปเยี่ยมหลุมที่ฝังพระศพของพระองค์ เพื่อความสงบและความบรรเทาใจ

แต่สิ่งที่ทำให้เธอสับสน คือ เธอกลับพบพระคูหาที่ว่างเปล่า จนทำให้เธอต้องวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากอัครสาวกสองท่าน คือ เปโตรและยอห์น เพราะไม่รู้ว่าอาจจะมีขโมยมาลักพระศพ และเธอไม่สามารถจะขัดขวางการกระทำดังกล่าว

    อย่างไรก็ตามการกระทำของเธอ ทำให้เรารู้ว่าความรักและความศรัทธาในพระเยซูเจ้านั้น ไม่มีอะไรมาขัดขวาง แม้จะเต็มไปด้วยความสงสัย ความไม่แน่นอน ส่วนยอห์น ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงรัก ที่เราฉลองท่านในวันนี้ เมื่อวิ่งไปถึงพระคูหาที่ว่างเปล่า ก็เชื่อทันทีว่าพระเยซูเจ้าได้ทรงกลับคืนชีพอย่างแท้จริง ความเชื่อในการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า จึงไม่ใช่ความเชื่อในสมอง อย่างที่บางคนกล่าวว่า เขาจะเชื่อถ้าสามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่จะต้องเป็นความเชื่อในหัวใจ ที่เขาเชื่อเพราะมีความรักและศรัทธาต่อบุคคล เช่นเด็กสามารถนอนอยู่ในอ้อมกอดของแม่อย่างสงบ เพราะเชื่อและไว้ใจในแม่ที่รักเขา ความรักและความศรัทธาต่างหากที่ให้คำตอบในปัญหาชีวิตทุกอย่างใช่หรือไม่?
สมองทำให้เราสับสน สงสัยโน่น สงสัยนี่ตลอดเวลาใช่หรือไม่?
ขณะที่ความรักและความศรัทธาทำให้เราเชื่อในพระเยซูเจ้า ผู้ทรงรักเราจนถึงที่สุดใช่หรือไม่?
ความรักและความศรัทธาแบบมารีย์ ชาวมักดาลาและแบบยอห์น อัครสาวกใช่หรือไม่ ที่เราคริสตชนควรเลียนแบบ?...
ข้าแต่พระเยซูเจ้า...ลูกขอขอบคุณพระองค์สำหรับความรักที่พระองค์มีต่อลูก... ขอบคุณพระองค์สำหรับชีวิตและพระหรรษทานที่พระองค์ได้มอบให้แก่ลูก... พระพรพิเศษของพระองค์เท่านั้นที่ทำให้ลูกมั่นใจ... และช่วยให้ลูกเป็นบุคคลที่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้พระองค์...

     ลูกขอมอบชีวิตให้พระองค์เป็นผู้นำทาง...
เพื่อลูกจะสามารถแบ่งปันพระวาจาของพระองค์กับบุคคลรอบข้าง...

ขอให้ความรักและความศรัทธาที่ลูกมีต่อพระองค์...
เป็นเครื่องมือในการนำบุคคลต่างๆให้เขามารักและศรัทธาในพระองค์... อาแมน