“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2015
สัปดาห์ที่สิบเอ็ด เทศกาลธรรมดา
มธ 6:19-23…

19“ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย ถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ 20แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย ขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้ 21เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”
22“ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย 23แต่ถ้าดวงตาของท่านไม่ดี ร่างกายของท่านก็จะมืดไปด้วย ฉะนั้น ถ้าความสว่างในท่านมืดไปแล้ว ความมืดจะยิ่งมืดมิดสักเพียงใด”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้”... วันนี้พ่อคงต้องเขียนถึงเรื่องราวของจาพ่อต่ออีกหน่อย เพราะประสบการณ์ทำให้เราเข้าใจพระคัมภีร์ และพระคัมภีร์ก็ฉายแสงแก่ประสบการณ์ของเรา... พ่อเพิ่งผ่านงานขอจามาอย่างที่ทราบ เมื่องานศพผ่านไป พ่อก็มานั่งทบทวนจาของพ่อ... พวกเราจัดงานศพ พวกเราจัดการสิ่งต่างๆ พร้อมกับพี่น้อง 15 คน พ่อพบว่า.. จาของพ่อไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆเลยจริง มีนิดหน่อย จาก็จัดการเรียบร้อยทั้งหมด เมื่อวันที่จาทรุดหนักที่บ้าน พ่อนั่งอยู่เป็นเพื่อน ให้กำลังใจ พ่อจำได้เพราะมันเพิ่งเกิดขึ้น... พ่อเห็นจาพยายามเคลื่อนมือไปใต้หมอน พยายามจะหยิบอะไรสักอย่างให้พ่อ... พ่อถามจามีอะไร?? จาพูดเสียงแผ่วเบา... “ของพ่อจะคืนให้พ่อ...” พลางหยิบกล่องสีแดง เป็นกล่องเครื่องประดับข้างในคือกางเขนทองหนักสักบาทหนึ่ง... “จาบอกว่า พ่อให้จามาหลายปี จาเก็บไว้นานแล้ว...จาอยากคืนให้พ่อ” (พ่อเห็นแล้ว จริงๆด้วย พ่อลืมไปนานแล้ว พ่อให้จาในโอกาสวันเกิด หลายปีมาแล้ว... จาเก็บไว้ ไม่เคยใช้ และก่อนจากไป จากลับนำมันมาคืนให้พ่อ.... เหมือนจะบอกพ่อว่า จาแบกกางเขนมาพอแล้ว)

• ที่สุดพ่อก็รับคืนมาเก็บไว้ จาคืนให้แม้แต่สิ่งที่พ่อให้จาไปนานแสนนาน สรุปว่า จาไม่มีอะไรเป็นสมบัติอีกเลยเมื่อตายจากไป... พ่อ ไตร่ตรอง และพ่อรู้สึกว่า สิ่งที่จามีคือพวกเรา ลูกๆ หลานๆ เท่านี้จริงๆ จาไม่มีทรัพย์สมบัติเลย... ไม่มีอะไรต้องห่วงที่เป็นสิ่งของ นอกจากห่วง รัก และเห็นใจลูกๆเท่านั้น เท่านั้นที่จาพ่อมี... ลาจากอย่างสงบ

• พระวาจาวันนี้ ทำให้พ่อต้องเขียนเรื่องสมบัติของจา... เพราะพระเยซูเจ้าตรัสว่า... “ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย ถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย ขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้ เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”

• พี่น้องที่รัก บทสอนสำหรับพ่อเอง การมีทรัพย์สมบัติมากๆ แล้วเราจะจากไปในที่สุด เราจะรู้สึกอย่งไร พ่อไม่สามารถบอกได้ เพราะพ่อไม่ได้มี แต่คนที่มีและยึดติด พ่อว่า น่าเห็นใจ เขาอาจสร้างบ้านได้ใหญ่โต มหาเศรษฐีมีที่ดินมากมายจนเป็นตำนาน... ซื้อที่ดินทั่วไปหมด โฉนดมากมายที่แสนภูมิใจ... จะอยู่กับเราได้นานเท่าใดหนอ... อายุคนเราสักกี่ปีกัน และถ้าเราสะสมต่อให้ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ที่สุด เราก็จากไป... ภาษาเราๆบอกว่าเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้... ก็จริงๆนะครับ เพราะไม่มีใครไม่ตาย เมื่อตายจากไปแล้ว สมบัติบ่อยครั้งก็ต้องขึ้นศาลยาวนาน แบ่งสันปันส่วน แบ่งแยกกันไป.. และก็จะไปสู่รุ่นต่อไปที่ต้องแย่งชิงกันอีก... สมบัติที่พระเยซูเจ้าบอกว่า ของโลกนี้อย่าสะสมเลยเพราะมันไม่ยั่งยืน...

• แต่พระองค์บอกกับเราว่า “แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย” สมบัติในสวรรค์คืออะไรที่เราต้องสะสม.. อะไรกันหนอ พ่อนั่งคิดตริตรองจริงๆ อะไรกันหนาคือสมบัติในสวรรค์ อะไรคือสมบัติในโลกนั้นเราเห็นชัดเพราะมันเป็นทรัพย์สินสิ่งของที่คนเขาก็ สะสมกันและก็ต้องสูญไป เสียไป ถูกโกงหรือขโมยไป.. แล้วอะไรคือสมบัติในสวรรค์ที่เราต้องสะสม...

• พ่ออ่านแล้วอ่านอีก พ่อดูประสบการณ์เล็กๆของจาพ่อ ดูประสบการณ์มากมายของผู้คนในโลกที่แสนร่ำรวย แต่อายุก็พอๆกัน ยื้อชีวิตด้วยเงินในยามป่วยหนัก เพื่อรักษาสถานภาพและเงินตรา น่าคิดต่อ... พ่อก็คิดต่อไป อะไรนะคือสมบัติที่เราคริสตชนต้องสะสมในสวรรค์ ที่ยั่งยืน ไม่ถูกทำหลาย และพระเยซูเจ้าก็บอกกับเราว่า “เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”

• เมื่อพ่อนั่งไตร่ตรองจากคำสอนบนภูเขา และกำลังอยู่ในพระวรสารตอนนึ้ซึ่งต่อเนื่องจากคำสอนบนภูเขา พ่อค่อยๆ พบกว่า พระเยซูเจ้าเคยสอนบรรดาศิษย์ “พระเจ้าและเงินตรา” “เราไม่สามารถเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย” หรือ “สิ่งที่เป็นของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ สิ่งที่เป็นของพระเจ้าจงคืนให้พระเจ้า” เสียงพระวาจาเหล่านี้ดังก้องเข้ามาในใจพ่อเอง และพ่อได้พบคำตอบ ใจของเรามนุษย์จะยึดอยู่กับสมบัติใด...

o พระเจ้าคือความรัก ความเชื่อ ความหวัง และพระเจ้าล้ำค่าที่สุดของชีวิตของเรา หรือ...

o เงินทอง ทรัพย์สมบัติ ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง

• ในสองอย่างนี้ อะไรคือที่วางหัวใจของเรา พระเจ้าหรือเงินทอง ใจของเราวางไว้ได้สงบที่ไหน วางใจสุดๆได้ที่ไหน ในพระเจ้า หรือในทรัพย์สมบัติ.. พ่อคิดว่านี่คือประเด็นที่ต้องไตร่ตรอง... เราอาจไม่มีสมับัติอะไรเลย แต่ใจเราเป็นสุข “ความสุขแท้แก่ผู้มีใจยากจน” นี่คือพระโอวาทหรือบุญลาภประการแรก ที่พระเยซูเจ้าทรงสอนบนภูเขา... ใช่เลย พ่อคิดว่า การได้เลือกได้รักและได้รับพระเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด คือ ความสุข และเป็นสมบัติสวรรค์จริงๆครับ พ่อยิ่งไตร่ตรองพ่อยิ่งมั่นใจ และแน่นอน.. พ่อต้องขยายประสบการณ์ต่อ... คือ

• คนมีความเชื่อในพระเจ้าที่สุด... มีความสุข แม้เขาร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติมาก ดีครับ ดีจริงๆ นะ รวยได้ไม่แปลกเลย แต่ขอให้มีใจยากจน นั่นคือพระเจ้าสำคัญที่สุด สมบัติที่มีไม่ได้มีค่าอะไรเมื่อเทียบกับพระเจ้า และคนร่ำรวยที่มีความเชื่อจะดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขแม้ร่ำรวย แต่ไม่ยึดเป็นเป้าหมายสูงสุดที่เงินทอง แต่พระเจ้าต่างหากที่เป็นที่รักที่สุด... ดังนั้น ร่ำรวยได้ครับ ดีด้วย แต่ต้องไม่ยึดความร่ำรวยว่าเป็นพระเจ้า อย่านับถือเงินเป็นพระเจ้า และตรงกันข้าม ถ้าเขามีความเชื่อในพระเจ้าจริงๆ เขาจะเมตตา ใจกว้าง มีโอกาสแบ่งปันมากกว่าใครเพราะมีมากกว่า เพราะรักพระเจ้ามาก จึงรักพี่น้องและไม่สามารถทนเห็นพี่น้องขัดสนได้เลย... คนที่เชื่อในพระเจ้าจริงๆ วางใจในพระเจ้าจริงๆ คือคนที่มีพระเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุด และนั่นคือการได้รับพระเจ้าคือสวรรค์เป็นชีวิตจิตใจของตน... คนมีความเชื่อในพระเจ้า มีพระเจ้าเป็นสมบัติสูงสุด น่ารักแน่นอน ใจกว้างและเมตตาต่อพี่น้องแน่นอนครับ

• คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติเหมือนเป็นพระเจ้า จะกระหายไม่รู้จบ และจะไม่มีคำว่า “พอเพียง” และบ่อยครั้ง ก็กระหายอยากได้จนเพื่อนพี่น้องร้อบข้างไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างเพียง พอ จนลงเพราะความรวยของพวกเขาที่เอาแต่ได้ และดิ้นรนเพื่อจะมี วางใจในเงิน อำนาจ ทรัพย์ และบอกตรงๆ คนที่วางใจในทรัพย์จะไม่มีพระเจ้าครับ ถ้าจะมีก็เอาพระเจ้ามาประดับบารมี เอาศาสนามาเป็นเครื่องแต่งกายให้ดูดีมีธรรม สาบาน พร้อมสาบาน พร้อมอ้างศาสนา พร้อมอ้างความเชื่อ และก็มีศาสนาไว้เพื่อฉ้อฉลได้แยบยลและน่าเคารพ...

• ต่างกันมากครับ คนที่มีพระเจ้าเป็นสมบัติล้ำค่านั้น จะเห็นคุณค่าและใช้สมบัติในโลกอย่างมีคุณและเมตตา แต่คนที่เอาเงินทองเป็นพระเจ้า... แม้แต่พระเจ้าแท้ๆ ที่ตนนับถือก็กลับเอามาสนับสนุนการเงินและกำไรของตน... เราเห็นชัดครับ และจำเป็นต้องเห็นให้ชัด พระเจ้าและเงินตรา เราจะเลือกอะไรเป็นสำคัญก่อนอื่น และสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของเรา... คงต้อง จัดการดวงตากายและตาแห่งดวงใจเราให้มองเป็นชัดเจน

• พระเยซูเจ้าตรัสในตอนสุดท้ายของพระวาจาวันนี้ว่า... ““ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย แต่ถ้าดวงตาของท่านไม่ดี ร่างกายของท่านก็จะมืดไปด้วย ฉะนั้น ถ้าความสว่างในท่านมืดไปแล้ว ความมืดจะยิ่งมืดมิดสักเพียงใด””

o พี่น้องที่รัก พระเจ้าคือความสว่างครับ พระอาณาจักรสวรรค์คือความสว่างสุกใน มองให้เห็นชัด อย่าปล่อยให้ดวงตากายและใจของเรามืดมัวไปเพราะความบอดมืดแห่งธรรม

o มองให้เห็นความจริง อย่าบอดในเรื่องพระเจ้า และอย่าให้ทรัพย์สินเงินทองเข้าตาทำให้ตาใจของเราบอด ปิด และไม่เห็นพระเจ้าเลย

o เราเป็นบุตรของพระเจ้า เป็นบุตรของความสว่าง ถ้าเราปล่อยให้ความสว่างสุกใสของเรามืดมนไปเพราะความโลก เงินตรา และสมบัติในโลก คิดดูสิครับ ว่าเราจะเจริญชีวิตมืดได้ใจเลย และมืดสักเพียงใดกัน...

o เป็นคริสตชน.. เรารักพระเจ้าที่สุดครับ และเราจะเห็นคุณค่าของสิ่งของของโลก รักษ์สิ่งสร้างและเอาใจใส่ไม่โลภทำลายด้วยใจหมองมัวหน้ามมืดเพราะอยากได้ นี่แหละคือชีวิตคริสตชนครับ.. สะสมความเชื่อในพระเจ้า สะสมความรักและความหวังในพระองค์นะครับ..

o ขอพระเจ้า สมบัติสวรรค์นิรันดร เป็นของเราเสมอไปครับ

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2024
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 9:1-20) ขณะนั้น เซาโลยังคงเคียดแค้นคุกคามจะฆ่าบรรดาศิษย์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จึงเข้าไปพบมหาสมณะ ขอหนังสือมอบอำนาจไปยังศาลาธรรมต่างๆ ในเมืองดามัสกัส เพื่อจะได้จับกุมทุกคนที่พบ ไม่ว่าชายหรือหญิงที่ดำเนินชีวิตตามวิถีทางของพระคริสตเจ้า แล้วนำไปยังกรุงเยรูซาเล็ม ขณะที่เขาเดินทางใกล้ถึงเมืองดามัสกัส ทันใดนั้น มีแสงสว่างจากท้องฟ้าล้อมรอบตัวเขาไว้ เขาล้มลงที่พื้นดินและได้ยินเสียงกล่าวว่า “เซาโล เซาโล ท่านเบียดเบียนเราทำไม”...
วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 8:26-40)...
วันพุธที่ 17 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 7:51-8:1ก)...
วันอังคารที่ 16 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 7:51-8:1ก)...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)
การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)+++++++++++วันที่ 14 มีนาคม 2024 7 โมงเช้าวันนี้ ซิสเตอร์...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)
การประชุม CBF -SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)13 มีนาคม 2024 + 9...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)อังคารที่ 12 มีนาคม เริ่มเช้าวันใหม่...
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง++++++++++11 มีนาคม 2024 อาร์คบิชอป ไซม่อน โป แห่งอัครสังฆมณฑล คูชิง...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย ครั้งที่ 1 /2024
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) สมัยสามัญ ครั้งที่ 1 /2024 วันจันทร์ที่ 4...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 8 วันพุธที่...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” (1)
“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” 88. พระคูหาว่างเปล่า ข่าวดีจากทูตสวรรค์ (มก 16:1-8) 161เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (2)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พระธรรมล้ำลึกยิ่งใหญ่แห่งความเชื่อคือ การที่พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (1)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (มก 15:42-47) 1542วันนั้นเป็นวันเตรียม คือวันก่อนวันสับบาโต 43ครั้นถึงเวลาเย็น โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกน่านับถือคนหนึ่งของสภาซันเฮดรินและกำลังรอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้า...
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ” (2)
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ” 86. กลุ่มสตรีที่เนินกัลวารีโอ (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในสตรีเหล่านี้ เราเห็นความรักมั่นคง ความซื่อสัตย์...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์