วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน  2012
วันอาทิตย์ที่สาม  เทศกาลปัสกา
บทอ่าน
:กจ  3: 13-15, 17-19  ;    1 ยน  2: 1-5ก  ;    ลก  24: 35-48
พระวรสารสัมพันธ์กับ
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก 108, 112, 572, 601, 627, 641, 644, 645, 652, 702, 730, 981, 999, 1120, 1122, 1304, 2605, 2625, 2763
                               ประมวลคำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักร  (CSDC)   52, 491

จุดเน้น เราต้องรับใช้ในฐานะเป็นพยาน  การช่วยเหลือนำพี่น้องให้รับความรอดพ้นในพระเยซูเจ้า
               พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว  พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจริงๆ  เรากำลังฉลองปัสกา  หรือภาษาอังกฤษเรียก  อีสเตอร์  ขณะที่เรากำลังทำดังนี้  เราอาจพบความลำบาก  คิดถึงชีวิตที่เป็นเหมือนบรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้า  หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์  หลายคนมิได้อยู่กับพระองค์ตอนกำลังสิ้นพระชนม์  และขณะนำพระศพไปที่พระคูหา  มีเพียง  2-3 คนได้ไปที่พระคูหาในวันที่สามเพื่อเจิมพระศพ  หลายคนต้องกังวลใจว่าพวกเขาจะติดตามใคร  พวกเขาเคยอยู่กับพระเยซู  มีความหมายอะไรเพราะพระองค์มิได้อยู่กับพวกเขาแล้ว  และแล้ว  บรรดาสตรีที่พระคูหาเช้าวันปัสกาครั้งแรก  บอกว่า  พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย  โลกใหม่ได้เปิดสำหรับพวกเขาแล้ว
              แน่นอน  มิใช่บรรดาศิษย์ของพระองค์ทุกคนได้เห็นพระเยซูเจ้าในเช้าวันปัสกาแรก  และการประจักษ์พระวรกายหลายครั้งหลังจากที่ทรงกลับคืนชีพ  ดูเหมือนทำให้บางคนเริ่มสงสัยและกำลังหมดความเชื่อ  เราต้องฟังปฏิกิริยาของบรรดาศิษย์จากพระวรสารวันนี้  จะได้รู้ความจริงที่พวกเขายืนยัน

             ทุกวันนี้อาจมีพวกเราคาทอลิกหลายคนที่ไม่คุ้นเคยกับความสงสัย  เหมือนบุคคลในพระวรสาร  พวกเขาอาจเชื่อตลอดชีวิต  โดยไม่ตั้งคำถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ตรึงกางเขนและการกลับคืนชีพ  อย่างไรก็ดี  สำหรับบรรดาอัครสาวกและบรรดาศิษย์สมัยแรกคนอื่นๆ  ความเชื่อยังมิได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยประสบการณ์  และการสอนของคนอื่น  แต่เกิดจากประสบการณ์เรียนรู้และพบปะสัมพันธ์โดยตรงกับพระเยซูแบบหน้าต่อหน้า

             แต่ไม่ว่าเรามีความเชื่อง่ายๆ  หรือต้องผ่านความสงสัย  พระวรสารวันนี้ช่วยให้เหตุผลแก่เราให้ยินดี  พระเยซูเจ้ามิได้ถามหรือขอให้เรามีความเชื่อแบบสมบูรณ์  แต่ขอเราให้เปิดใจรับความรักของพระองค์  พระองค์พร้อมที่จะช่วยเราให้เติบโต  เข้าใจความเสียสละของพระองค์เพื่อความรอดพ้น  และเข้าใจทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ  เพื่อเราจะคืนดีกับพระองค์  พระเยซูเจ้าทรงอดทนกับบรรดาอัครสาวก  และทรงอดทนกับเราด้วย
 วันนี้  พระวาจาจากหนังสือกิจการอัครสาวก  เตือนใจเราว่า  พระเยซูเจ้าเป็นผู้รับใช้  ผู้รับทุกข์  ผู้รับทรมานและสิ้นพระชนม์  ไถ่บาปของโลก  พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า  พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์  และเป็นพระวาจาของเจ้าผู้ทรงชีวิต  ดังนั้น  ใครจะดีกว่าพระคริสตเจ้าผู้ทรงเปิดจิตใจของบรรดาศิษย์  รวมทั้งเราด้วย  ให้เข้าใจแผนการไถ่กู้ของพระเจ้า  อาศัยพระทรมาน  การสิ้นพระชนม์  การกลับคืนชีพ  และการเสด็จสู่สวรรค์ของพระคริสตเจ้า  มนุษย์เราจึงได้รับการอภัยบาป  และประตูสวรรค์ถูกเปิดออกต้อนรับทุกคนที่ติดตามพระองค์  ดังนั้นการกลับคืนพระชนมชีพ  ทำให้พระสัญญาแห่งความรอดของพระเจ้าต่ออาดัม  เอวา  และยืนยันตลอดประวัติศาสตร์แห่งความรอดให้สำเร็จไป

                 ตอนท้ายของบทอ่านวันนี้  บอกเราว่า  พระเยซูเจ้าได้เตือนใจบรรดาศิษย์  “ท่านทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้”  ดังนั้น  เราต้องเป็นพยานด้วย  พยานถึงชีวิต  การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้า  ผู้ได้เรียกเราให้ออกจากความมืด  และอยู่ในแสงสว่างมหัศจรรย์ของพระองค์  การเป็นพยานถึงเรื่องเหล่านี้  เราก็มีส่วนร่วมพันธกิจของพระศาสนจักร  ทำส่วนของเรา  ก็เป็นการช่วยนำพี่น้องมาหาพระคริสตเจ้า  หวังว่าพี่น้องจะร่วมงานนี้

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2012  Vol. 45 No. 2), หน้า 186-187.