วันอาทิตย์ที่ 8  เมษายน  2012
สมโภชพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพ

บทอ่าน : กจ  10: 34ก, 37-43  ;    คส  3: 1-4  ;    ยน  20: 1-9
พระวรสารสัมพันธ์กับ
คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก  515, 640, 2174
จุดเน้น เราทุกคนสามารถกล่าวว่า  อัลเลลูยา
               วันนี้เราทุกคนกล่าวอัลเลลูยา  ด้วยความยินดี  เรามาฉลองพระเยซูเจ้ากลับคืนพระชนมชีพ  ซึ่งให้ความหวังสำหรับชีวิตนิรันดรในสวรรค์แก่เรา
               เป็นการยากสำหรับเราที่จะวาดมโนภาพว่าวันปัสกาครั้งแรกต้องเป็นอย่างไร  บรรดาอัครสาวกกำลังเสียกำลังใจ  ที่พระอาจารย์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน  แต่ละคนวุ่นวายใจ  แต่ที่สุดได้พบกับบุคคลพิเศษคนเดิม  มีคนรายงานสิ่งที่คิดไม่ถึง  เหลือเชื่อว่าพระอาจารย์ยังไม่ตาย  พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย
             เหตุการณ์วันปัสกาเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเราในฐานะคริสตชน  ในฐานะคาทอลิก  หากพระเยซูได้จาริกบนโลก  ทรงตรัสสอน  และทรงกระทำสิ่งต่างๆ แล้วสิ้นพระชนม์  และยังคงสิ้นพระชนม์  ไม่เหมือนกับที่เราเป็นอยู่ในวันนี้  ความเชื่อของเราคงจะไร้สาระ  แต่พระเยซูได้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย  พระองค์ทรงชนะบาปและความตาย  นี่จึงเป็นสิ่งที่นำเรามารวมกันที่นี่วันนี้  และนำเราให้มีความหวังถึงชีวิตนิรันดรในสวรรค์

              เมื่อเรามองดูรอบๆ  เห็นประชาชนมากมาย  ทุกวัย  และมีภูมิหลังแตกต่างกันมาอยู่รวมกันที่นี่  น่าจะทำให้บางคนแปลกใจว่า  ทำไมพวกเราจึงมีความเชื่อเช่นนี้  มาเฉลิมฉลองกันวันนี้  ในนามพระเยซูเจ้า  หากเราสามารถใช้เวลา  ความสามารถ  และทรัพยากรต่างๆ  ไตร่ตรองเรื่องนี้  ที่อยู่ต่อหน้าเราแต่ละคน  แต่ละครอบครัว  ในฐานะผู้มีความเชื่อ  และในฐานะชุมชน  ย่อมไม่มีภูเขาใดที่เราไม่สามารถเคลื่อนที่  เราเชื่อว่าเรื่องนี้จริง  เพราะพระเยซูเจ้าได้ตรัสสอนแล้วว่ามันเป็นไปได้  หากเรามีความเชื่อจริงๆ  พี่น้องที่รัก  จงมองไปรอบๆ ตัว  เรามีความเชื่อ
 หากโลกที่เราอาศัยอยู่  ยังคงเป็นสถานที่ดี  หากยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้เราอาศัย  ความเชื่อที่นำพาให้เรามารวมกันวันนี้  ต้องไปกับเราในโลก  เราต้องแบกความเชื่อกลับไปบ้าน  โรงเรียน  ที่ทำงาน  ไปหาเพื่อนบ้าน  และทุกแห่งที่เราไป  เราต้องไม่กลัวที่จะแบ่งปันให้คนอื่นฟังว่า  เรารู้เกี่ยวกับพระคูหาของพระเยซูเจ้า  และรู้ว่าพระคูหานั้นว่างเปล่า  มิใช่เพราะมีคนไปขโมยพระศพ  แต่เพราะพระบิดาทรงทำให้พระบุตรกลับคืนชีพ  ดังที่ตรัสสัญญาไว้

               วันนี้  หลายคนกำลังยุ่งกับการพลิกก้อนหินปิดพระคูหา  หวังว่าพวกเขาจะได้ลืมสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ในเช้าวันอาทิตย์ปัสกาครั้งแรก  ดังนั้น  ให้เราอุทิศตน  ดังคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป  ที่จะเป็นศิษย์ที่ดีและซื่อสัตย์  อย่าแก้ตัวว่าเราไม่มีเวลา  เราทำไม่ได้  ไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไร  ให้เราตั้งใจใหม่ที่จะเป็นพยานถึงข่าวดี  ว่าพระองค์ทรงกลับคืนพระชนม์  เพราะพระคูหาว่างเปล่า  ให้คำพูดและกิจการของเราประกาศข่าวดีด้วยความเชื่อที่มีชีวิต  หากใครสังเกตว่าเรากำลังดำเนินชีวิตแห่งความเชื่อด้วยความกระตือรือร้น  พวกเขาทุกคนจะสามารถกล่าวว่า  อัลเลลูยา  อย่างมีความหมาย

พระสังฆราชวีระ  อาภรณ์รัตน์  แปล
จาก  Homilies  โดย Catholic  Diocese  of  Lansing,
(เมษายน – มิถุนายน  2012  Vol. 45 No. 2), หน้า 164-165.